เปรียบเทียบ Rode Wireless GO 2 รุ่นใหม่ vs Rode Wireless GO รุ่นแรก ต่างกันยังไง คุ้มไหมที่จะซื้อ?

March 1, 2021
RODE

เปรียบเทียบ Rode Wireless GO 2 รุ่นใหม่ vs Rode Wireless GO รุ่นแรก ต่างกันยังไง คุ้มไหมที่จะซื้อ? Rode Wireless GO II เป็นไมค์ไร้สายตัวใหม่ที่ RODE ผลิตมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน โดยครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ทำงานได้สะดวกมากขึ้น เรามาดูกันว่าคุณสมบัติเด่นของเปรียบเทียบ Wireless GO II vs Wireless GO ต่างกันยังไง คุ้มไหมที่จะซื้อ?

เปรียบเทียบ Rode Wireless GO 2 รุ่นใหม่ vs Rode Wireless GO รุ่นแรก ต่างกันยังไง คุ้มไหมที่จะซื้อ?

รูปร่างและดีไซน์ Rode Wireless GO II ยังคงรักษาความกะทัดรัดสวยงามไว้เหมือนเดิม

Rode Wireless GO II และ Rode Wireless GO ถูกออกแบบมาให้เป็นไมค์ไร้สายตัวเล็กที่กะทัดรัด มีคลิปหนับปกที่สามารถต่อเข้ากับ cold shoe ของกล้องมิลเลอร์เลส DSLR ให้เสียงใส คมชัด มีรูปแบบการรับเสียงแบบ Omnidirectional ไวต่อเสียงรับเสียงได้รอบทิศทาง

Rode Wireless GO II เป็นระบบ 2 : 1 ส่วน Wireless GO ใช้ระบบ 1 : 1

Rode Wireless GO 2 เป็นระบบที่ใช้ไมค์ 2 ตัวพร้อมกัน รับสัญญาณเสียงแยกและบันทึกไฟล์เสียงแยกกันอย่างอิสระ และมีตัวรับสัญญาณเพียง 1 ตัว ส่วน Rode Wireless GO เป็นระบบการรับเสียง 1 : 1 คือไมโครโฟน 1 ตัวและตัวรับสัญญาณ 1 ตัว

Rode Wireless GO II จึงสามารถปรับเป็นระบบรับสัญญาณเสียงแบบ Stereo เป็นระบบ Mono ได้

Rode Wireless GO II มีระบบสำรองข้อมูลในตัวได้นานถึง 24 ชั่วโมงเพิ่มความสามารถมาจาก Rode Wireless GO ที่ยังไม่มีความสามารถด้านนี้

Rode Wireless GO II มีระบบสำรองข้อมูลในตัว ที่สามารถบันทึกไฟล์เสียงสำรองข้อมูลไว้ได้ โดยการบันทึกแบบวนเป็นลูป คือเมื่อรับสัญญาณจนเต็มพื้นที่บันทึกผลแล้วก็จะเริ่มการบันทึกใหม่โดยทับไฟล์เดิม ขอดีของการมีการบันทึกไฟล์เสียงสำรอง คือช่วยสำรองไฟล์เมื่อเกิดความผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน ซึ่งเราสามารถดึงไฟล์เสียงสำรองมาใช้งานได้

Rode Wireless GO 5 รับส่งสัญญาณเสียงได้ไกลสุด 200 เมตร Rode Wireless GO รุ่นแรกทำได้ที่ระยะ 70 เมตร

จากเดิม Rode Wireless GO รุ่นแรกมีระยะการส่งสัญญาณไกลถึง 70 เมตรด้วยระบบการส่งสัญญาณ digital transmission ที่ได้รับการอัพเกรดมาใหม่ใน Series IV 2.4GHz จึงทำให้ Wireless GO 2 ส่งสัญญาณเสียงได้ไกลถึง 200 เมตร ได้เสียงที่คมชัดมากยิ่งขึ้น เสียงใสชัดเจน รับส่งสัญญาณได้ไกลึงแม้จะอยู่ที่ที่มีผู้คนแออัด หรือมีสิ่งกีดขวาง สัญญาณสเถียรมากขึ้นลดปัญหาสัญญาณขาดหรือหลุดระหว่างการทำงาน

Rode Wireless GO 2 ปรับ Gain ได้ถึง 10 ระดับในขณะที่ Wireless GO รุ่นแรกปรับได้แค่ 3 ระดับ

การปรับ Gain ใน Rode Wireless GO รุ่นแรกปรับได้ 3 ระดับ (0dB, -12dB and -24dB) เพื่อปรับรายละเอียดของเสียง input และใน Rode Wireless GO 2 ปรับได้ถึง 10 เลยทีเดียว

Rode Wireless GO 2 มี Safety mode ป้องกันความผิดพลาดในระหว่างการทำงาน Rode Wireless GO รุ่นแรก ยังไม่มีโหมดนี้

Rode Wireless GO 2 มีช่องความปลอดภัยซึ่งบันทึกแทร็กที่สองในกรณีที่คลิปเสียงหลักถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจหรือการที่เสียงดังขึ้นเกินระดับของอุปกรณ์บันทึกเสียงทำให้เกิดความผิดเพี้ยน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถแก้ไขได้ในกระบวนการ Post – Production ซึ่งก็หมายความว่าเราจะมีการสำรองข้อมูลเสียงของให้ปลอดภัย ไม่ทำให้งานเสีย

Rode Wireless GO II เชื่อมต่อทำงานเข้ากับคอมพิวเตอร์ และใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อควบคุมการทำงานของ ไมค์ได้ แต่ Rode Wireless GO รุ่นแรก ไม่มีความสามารถนี้เลย

Rode Wireless GO 2 ต่อทำงานเข้ากับสมาร์ทโฟน แท็บแล็ดและคอมพิวเตอร์ได้ผ่านช่อง USB – C โดยสามารถควบคุมการทำงานและใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดของไมค์ผ่านแอปพลิเคชัน RØDE Central ทั้งยังมี interface ที่ใช้งานง่าย ควบคุมง่ายและสะดวกมากขึ้นอย่างมาก

โดยรวมแล้วจะเห็นว่า Wireless GO 2 มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิมแต่ยังคงมีความสามารถพื้นฐานที่ยังเหมือนกับรุ่น Rode Wireless GO รุ่นแรกอยู่บ้าง ทั้งความกะทัดรัด ดีไซน์สวย ต่อเข้าทำงานกับกล้อง มือถือ เครื่องบันทึกเสียง หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้ ความคล่องตัวและประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพเสียงที่ชัดเจน เสียงใส เก็บรายละเอียดเสียงได้ดี

ราคาของ Rode Wireless GO 2 อยู่ที่ 11,900 บาทและ Rode Wireless GO อยู่ที่ 6,990 บาท คุ้มไหมที่จะซื้อ?

ถ้าราคาต่างกัน 3000 บาท ใช้งานไมค์ได้ 2 ตัว แยกไฟล์เสียงได้ สัญญาณส่งได้ไกล 200 เมตรสำหรับงาน vlogger งาน content creator งานสัมภาษณ์ พูดคุย Podcast ที่เน้นการพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์แบบสองฝ่ายมีระบบบันทึกเสียงสำรองลดความผิดพลาดและแก้ไขงานได้ทั้งยังทำงานด้านเสียงได้ในระดับมืออาชีพมากขึ้นผมว่าก็ถือว่าคุ้มนะครับ