5 วิธีเลือกฟิลเตอร์มาใช้ถ่ายภาพ Landscape ให้ฟุ้งสวย ละมุนเหมือนภาพยนตร์

ปัจจุบันฟิลเตอร์กล้องมีให้เลือกใช้งานหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น CPL, ND, GND, Black Mist เป็นต้น ซึ่งการเลือกฟิลเตอร์ที่เหมาะสมกับลักษณะของภาพที่ต้องการ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ภาพถ่ายของคุณดูโดดเด่นและมีมิติมากขึ้น ถ้าต้องการถ่ายภาพ Landscape เอฟเฟคเส้นแสงที่สายน้ำ ก็อาจจะใช้ ND Filter เพราะเป็นฟิลเตอร์ลดแสง แต่ถ้าไม่ได้อยากลดแสงก็อาจจะใช้ CPL ก็จะมีคุณสมบัติลดแสงสะท้อนบนผิวน้ำ ถ้าอยากให้ภาพมีเอฟเฟคที่ทำให้สายน้ำเป็นเส้น และเป็นไฮไลท์ฟุ้งสวยต้องใช้ฟิลเตอร์แบบไหน ? ในวันนี้จะมาพูดถึง 5 ข้อที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อฟิลเตอร์มาใช้งานถ่ายภาพ Landscape ที่จะช่วยให้ภาพของคุณสวย ฟุ้งสวยละมุน

1. เลือกฟิลเตอร์ที่เคลือบสาร Coating

สิ่งสำคัญที่สุดในการถ่ายภาพนิ่ง หรือถ่ายวิดีโอ คือ ความเที่ยงตรงของสี โดยเฉพาะการถ่ายภาพ Landscape ที่ต้องการให้สีของภาพถ่ายน้ำตก น้ำทะเลใกล้เคียงกับสีและแสงธรรมชาติมากที่สุด จึงจำเป็นต้องเลือกฟิลเตอร์ที่เคลือบสาร Coating เช่น Nano-Coating, Multi-Coating ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีในแบรนด์ K&F ทำให้ภาพที่คมชัด สีเที่ยงตรง ช่วยให้ภาพดูสมจริง และน่าสนใจ

นอกจากนี้การถ่ายภาพแนว Landscape ส่วนใหญ่ช่างภาพมักจะลากสปีดชัตเตอร์นาน ๆ จับการเคลื่อนไหว และเกิดเอฟเฟกต์แบบเส้นแสง ต้องการให้เห็น Movement หรือการเคลื่อนไหวของทะเล และเมฆ ดังนั้นภาพจำเป็นจะต้องดูสมจริง ดึงดูดสายตาได้นั่นเอง

2. เลือกความเข้มของฟิลเตอร์

เมื่อต้องถ่ายภาพ Landscape กลางแจ้ง หรือในที่แสงแดดจ้า ภาพที่ได้จะขาวสว่าง ซึ่งจะลดรายละเอียดของภาพ สามารถปรับตั้งค่า ISO ให้ต่ำลงได้ แต่ถ้าใช้ฟิลเตอร์กล้องที่มีให้เลือกความเข้มได้ ก็ไม่จำเป็นต้องปรับลด ISO อีกเลย ซึ่งความเข้มของแสงใน Black Mist Filter ในแบรนด์ K&F ก็มีเลือกหลากหลาย เช่น 1/2, 1/4, 1/8 (เรียงจากเข้มไปบาง) ทั้งนี้เลือกให้เหมาะสมกับสภาพแสง

เมื่อได้ความสว่างพอดี ช่างภาพสามารถดึงความเร็วชัตเตอร์ให้ช้าลงได้ เหมาะสำหรับถ่ายภาพบุคคล ถ่ายภาพ Landscape เช่น น้ำตก น้ำทะเล ให้มี Movement นุ่มนวลสวยงามอย่างที่ต้องการ

3. เลือกฟิลเตอร์ที่ให้เอฟเฟคฟุ้งละมุนเหมือนฝัน

ถ้าอยากได้ภาพ Landscape ฟุ้งสวยละมุนเหมือนฝันละก็ แนะนำเลือกเป็น Black Mist Filter เพราะเป็นฟิลเตอร์ที่ให้เอฟเฟคฟุ้งละมุน โดยหน้าที่ของฟิลเตอร์จะทำการลดคอนทราสต์โดยรวม แต่ในขณะเดียวกันจะไปเพิ่มแสงและไฮไลท์ เพื่อให้ความรู้สึกละมุน เหมือนภาพยนตร์

เมื่อเอามาใช้ถ่ายภาพ Landscape เช่น ถ่ายภาพทะเล ถ่ายภาพน้ำตก ก็จะให้เอฟเฟคสายน้ำที่นุ่มนวล ฟุ้งละมุนเหมือนฝัน

4. เลือกฟิลเตอร์กระจกคุณภาพสูง

วัสดุของกระจกฟิลเตอร์ที่ดีจะผลิตด้วย Optical Glass ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ผลิตกระจกเลนส์ถ่ายภาพ ความใสและความคมชัด ไม่ลดทอนประสิทธิภาพของเลนส์ ให้คุณภาพในระดับ HD หรือ High Definition เหมาะสำหรับการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ

5. เลือกคุณสมบัติป้องกันน้ำ ป้องกันฝุ่น กันรอยขีดข่วน

เลือกซื้อฟิลเตอร์ที่มีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วน ป้องกันน้ำ เหตุผลก็เพราะว่างานถ่ายภาพ Landscape ส่วนใหญ่มักจะต้องเน้นลุย บางครั้งอาจจะต้องไปถ่ายใกล้น้ำตก ใกล้น้ำทะเล มีความชื้น มีละอองน้ำที่กระจายอยู่ในอากาศ หรือหมอกปกคลุม ดังนั้น ถ้าฟิลเตอร์มีการเคลือบสาร Coating ช่วยปกป้องหน้าเลนส์ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพทุกสถานการณ์

สนใจเป็นเจ้าของฟิลเตอร์ K&F หรือต้องการคำปรึกษาในการเลือกฟิลเตอร์ สามารถสอบถามได้ที่ Lnwgadget พร้อมให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย