ความต่างระหว่างแฟลชแยกและไฟต่อเนื่องกับการถ่ายภาพ
ความต่างระหว่างแฟลชแยกและไฟต่อเนื่องกับการถ่ายภาพ ในการถ่ายภาพแสงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดเรื่องราวและอารมณ์ของภาพ และในฐานะช่างภาพเรามีตัวเลือกในการให้แสงสว่างแก่ตัวแบบ ไม่ว่าจะเป็นแฟลชแยกหรือไฟต่อเนื่อง เรามาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการจัดแสงทั้งสองแบบ และรู้ว่าเมื่อไหร่เราควรใช้แฟลชแยกหรือไฟต่อเนื่องและส่งผลอย่างไรกับการถ่ายภาพบ้าง
ความต่างระหว่างแฟลชแยกและไฟต่อเนื่องกับการถ่ายภาพ
แฟลชแยกเป็นการให้แสงสว่างแบบชั่วครู่
แฟลชแยก แฟลชเสริม หรือแฟลชฐานเสียบ เป็นอุปกรณ์ให้แสงที่ปล่อยแสงจ้าในช่วงเวลาสั้นๆ จึงเหมาะสำหรับการหยุดการเคลื่อนไหวและเก็บภาพที่ต้องการความคมชัดเป็นพิเศษใช้งานได้หลากหลายสามารถติดเข้ากับกล้องได้หรือสั่งงานจากระยะไกล ปรับวางตำแหน่งและกำหนดทิศทางแสงได้อย่างที่ต้องการ
โดยทั่วไปแล้วแฟลชแยกจะมีกำลังความสว่างของแสงและระยะของแสงที่มากกว่าแฟลชที่ติดมากับตัวกล้อง แฟลชแยกช่วยให้ช่างภาพสามารถปรับความเข้มและทิศทางของแสงและสร้างเอฟเฟกต์ที่ช่างภาพสร้างต้องการจะสร้างสรรค์ได้นอกจากนี้ การใช้แฟลชแยกยังลดการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ของกล้อง เพราะแฟลชแยก จะทำงานเมื่อมีการเรียกใช้เท่านั้นจึงใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อยกว่า
ไฟต่อเนื่องเป็นการให้แสงสว่างที่สม่ำเสมอ
ไฟต่อเนื่องเป็นการให้ความสว่างอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอตลอดระยะเวลา การจัดไฟโดยใช้แสงอย่างต่อเนื่องช่วยให้ช่างภาพมองเห็นการกระทบของแสงได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ง่ายต่อการปรับและปรับแต่งการตั้งค่าแสงให้เหมาะสม ข้อดีคือใช้งานง่ายโดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น และไฟต่อต่อเนื่องสามารถเลียนแบบแสงธรรมชาติได้อย่างแนบเนียน และให้เงานุ่มนวล ดูสวยงามธรรมชาติ
ควรใช้แฟลชแยกหรือไฟต่อเนื่องดีถึงจะเหมาะกับงาน?
ทางเลือกระหว่างแฟลชแยกและไฟต่อเนื่องขึ้นอยู่ข้อจำกัดในการทำงาน เช่นการถ่ายภาพบุคคลและการถ่ายภาพในสตูดิโอ มักนิยมใช้แฟลชแยกมากกว่า เพราะความสามารถในการหยุดการเคลื่อนไหว จำเหมาะในการถ่ายภาพนิ่ง ส่วนงานวิดีโอและภาพยนตร์ การให้แสงอย่างต่อเนื่องถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการผลิตวิดีโอ โดยแสงสว่างที่สม่ำเสมอเช่วยให้การถ่ายภาพที่ราบรื่นและควบคุมแสงได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตามการถ่ายภาพขณะเดินทางและงานอีเวนท์ แฟลชแยกให้ความสะดวกในการพกพาได้ไม่น้อยเลย
บทสรุป
ไม่ว่าจะเลือกแฟลชภายนอกหรือไฟต่อเนื่อง ควรทำความเข้าใจจุดแข็งและข้อจำกัดของการใช้งานไฟแบบต่าง ๆ และต้องคำนึงถึงข้อจำกัดด้านต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นให้ลองพิจารณาข้อกำหนดในการถ่ายภาพหรือวิดีโอและทดลองใช้เทคนิคการจัดแสงทั้งสองแบบและลองชั่งน้ำหนักดูว่าไฟแบบไหนจึงจะเหมาะกับงานของเรามากที่สุด