fbpx
skip to Main Content

มือใหม่จะเริ่ม Live ให้สวย เราต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง และวิธีทำความเข้าใจสำหรับคนเริ่มต้น

มือใหม่จะเริ่ม Live ให้สวย เราต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง และวิธีทำความเข้าใจสำหรับคนเริ่มต้น ในปัจจุบันเราสามารถทำวีดิโอ live ได้หลายช่องทางเเละต่างวิธีการ ซึ่งคุณภาพของวีดิโอมีตั้งเเต่ทั่วไป จนถึงเเบบมือโปรคือ คุณภาพของภาพ การควบคุมเเสง และระบบเสียง ที่ถูกจัดและออกเเเบบอย่างดี ซึ่งคุณภาพการผลิตก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น คอนเซ็ปต์ของงงานที่ต้องการ อุปกรณ์ที่ใช้ และงบประมาณที่มี สำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำงานวีดิโอ คำถามที่มักจะถามก็คือ จะถ่าย live ให้สวยต้องใช้อะไรบ้าง 

ถ่าย live ให้สวยต้องใช้อะไรบ้าง สำหรับผู้เริ่มต้น 

กล้องวีดิโอ ต้องไม่เเพงมากขอให้มีคุณภาพ full HD หรือ 4K ก็พอ ซึ่งกล้องมือใหม่ก็มีคุณสมบัตินี้อยู่แล้ว

คุณสมบัติของกล้องวีดิโอ คือการบันทึกเเละถ่ายทอดออกมาเพื่อให้มีความคมชัด เเละเก็บบรรยากาศ เเสง เม็ดสีไม่ผิดเพี้ยน ดังนั้นกล้องวีดิโอไม่จะเป็นต้องเป็นกล้องราคาเเพงมาก หรือกล้องรุ่นใหม่ล่าสุด ขอให้มีคุณภาพเเบบ full HD หรือ 4K ก็พอใช้ได้เเล้วล่ะ

เลนส์ อยู่ที่มุมมองที่ต้องการ คมชัดในระยะที่ต้องการ

การทำ live ใช้การอธิบายเเละนำเสนอที่เเตกต่างกัน เลนส์ที่ใช้จึงไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นระยะไหนที่จะต้องใช้ เพียงเเต่ต้องใช้เลนส์ที่คมชัดรูรับเเสงกว้าง เพื่อการถ่ายในที่เเสงน้อย ในกรณีที่จะไฟโทนมืด เเละเพื่อการถ่ายเพื่อให้เกิดภาพหน้าชัดหลังเบลอ เพื่อที่จะให้ความสนใจไปยังผู้ที่กำลัง live อยู่นั่นเอง 

อาจจะใช้ 50 mm หรือ 85 mm หรือถ้าหากผู้เริ่มต้น อยากจะใช้เลนส์ที่ครอบคลุมได้หลายระยะ เพื่อจะถ่ายงานได้หลากหลาย ก็อาจจะเลือกเป็น 18- 55 mm ก็ได้ ส่วนเลนส์ซูมอาจจะไม่เเนะนำ เพราะถ้าสตูดิโอ มีพื้นที่จำกัด ก็จะเป็นเรื่องยากที่ต้องจัดระยะให้พอดี

Capture card รองรับการ live streaming ใช้งานง่าย ตั้งค่าไม่ยุ่งยากคุ้มราคา

เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการทำระบบ live streaming ทั้งระบบในการ Input – output ภาพเเละเสียงเพื่อแสดงผลในคอมพิวเตอร์ระหว่างทำการ live streaming ทั้งยังช่วยปรับ framerate ที่เหมาะสมที่ช่วยให้บันทึกไฟล์ระหว่างการ live เลือกที่ใช้งานไม่ต้องเซ็ตค่าอะไรให้ยุ่งยาก รองรับการทำงานกับกล้องหลายเเบรนด์ และคุ้มราคา

Notebook คุณภาพดี ใช้งานได้ราคา 2-3 หมื่นบาท ก็เพียงพอแล้ว

คอมพิวเตอร์ที่ใช้ เลือกที่ทำงานได้ดี ประมวลผลเร็ว หน้าจอแสดงผลได้ครบสี เก็บข้อมูลได้เยอะ ไม่จะเป็นต้องมีราคาเเพงมาก ประมาณ  2-3 หมื่นบาท ก็พอใช้ได้เเล้ว (ถ้ามีงบประมาณมากขึ้นก็ค่อยอัพเกรดเพิ่มทีหลังก็ได้) 

ซอฟต์เเวร์ Ecamm Live, OBS (Open Broadcaster Software), XSplit, Nvidia Shadowplay

ซอฟต์เเวร์ที่ใช้ในการทำ Live มีให้เลือกทั้งเเบบฟรีและแบบเสียเงิน ซึ่คุณสมบัติของเเต่ละค่าย ก็จะเเตกต่างกันไเเบบฟรีก็อาจจะมีข้อจำกัดมากหน่อย ปรับเเต่งอะไรมากไม่ค่อยได้มากนัก ซึ่งสำหรับผู้เริ่มต้นเเล้วอาจจะลองเริ่มจากซอฟต์เเวร์ฟรี ทำงานได้ทั้งบนระบบ Windows, Mac และ Linux เเละกินพื้นที่ของ CPU ไม่มากนัก เเต่ที่สำคัญ ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย จะดีที่สุด 

ชุดไฟ เเสง สีเเม่นยำ ไม่เพี้ยน กินไฟน้อย ให้ความสว่างสูง

ระบบแสงเเละการจัดชุดไป ก็ขึ้นอยู่กับขนาดห้องของสตูดิโอของเรา ปกติก็จะต้องมีเเสงไฟหลัก (key light) เเสงไฟลบเงา (fill light) และอาจจมีไฟเเยก หรือไฟด้านหลังเพื่อเป็นไฟฉากหลังอีกด้วย โดยไฟหลักจะมี soft box เพื่อให้เเสงที่เข้ามาเป็นเเสงที่นุ่มนวล ไม่กระด้าง โดยการจัดไฟเพื่อให้ live ได้สวยนั้น ขึ้นอยู่กับต้องการจะสื่อสารออกมาเเบบไหนจึงจัดไฟเพื่อให้สื่อสารเนื้อหาของ live ได้ชัดเจน โดยไฟที่เลือกใ้ช้ ควรให้เเสง สี ที่เเม่นยำ สีไม่เพี้ยนได้มาตรฐาน กินไฟน้อย เเต่ให้ความสว่างสูง ที่สำคัญไม่ต้องเเพงเเต่คุ้มค่ากับการใช้งาน

ไมโครโฟน 

ระบบเสียงก็มีความสำคัญเช่นเดียวกับระบบภาพเเละเเสงนะ จริงที่กล้องก็มีไมโครโฟนมาให้ในตัวเเล้ว เเต่ว่าเพื่องาน live ที่มีคุณภาพเสียงที่ดีนั้น เเนะนำให้ใช้ไมค์แเยก จะให้ความคมชัดของเสียง เเละลบเสียงรบกวนได้ดีกว่า 

โดยไมโครโฟนที่ใช้ในการ live ใช้ได้หลายประเภท เช่น ไมค์หนีบปกเสื้อใช้กับการ live โดยไมโครโฟนอยู่ใกล้ตัวผู้พูด ใช้ในสตูดิโอหรือนอนสถานที่ก็ได้ ไมค์เเบบ short gun จะติดอยู่ที่กล้องวีดิโอ เก็บเสียงได้ดี ลบเสียงรบกวนได้ดีเช่นกัน และไมค์เเบบคอนเดนเซอร์สำหรับการนั่งพูดในสตูดิโอ ให้เสียงชัดทุ้ม นุ่ม  ซึ่งการเลือกใช้ไมโครโฟนก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้ live ว่าต้องการจะให้คุณภาพเสียงออกมาในลักษณะใด

×Close search
Search