เปรียบเทียบ DJI RS 2 vs DJI Ronin-S มีอะไรเปลี่ยนไป เเตกต่างกันอย่างไรบ้าง DJI RS 2 เป็นกิมบอลรุ่นใหม่ ขนาดเล็กลง เบาลง แต่ให้ความสามารถสูงขึ้นเกินตัว ตอบสนองการทำงานของผู้ผลิตภาพยนตร์มากขึ้นเป็นกิมบอลอีกตัวหนึ่งที่พัฒนามาจากสายการผลิต Ronin และในบทความนี้ เราจะมาเปรียบเทียบคุณสมบัติของ DJI RS 2 vs. DJI Ronin-S ว่ามีอะไรเปลี่ยนไป และแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
เปรียบเทียบ DJI RS 2 vs DJI Ronin-S มีอะไรเปลี่ยนไป เเตกต่างกันอย่างไรบ้าง
DJI RS 2 ถูกดีไซน์ให้เล็กลง เบาลงกว่าเดิม เเต่รับน้ำหนักได้มากขึ้นตอบสนองการทำงานของ Filmaker
Carbon fiber เป็นวัสดุที่ใช้ในการผลิต DJI RS 2 โดยลดน้ำหนักของกิมบอลลงจากเดิมในรุ่น DJI Ronin-S ที่มีบอดี้น้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม ในรุ่น DJI RS 2 น้ำหนักบอดีเหลือเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น
ซึ่งนอกจากจะลดน้ำหนักของกิมบอลได้เเล้ว DJI ยังพัฒนาตัวมอเตอร์ให้ทำงานได้ดี ทำให้ DJI RS 2 มีประสิทธิภาพในการรับน้ำหนักกล้องได้สูงขึ้นถึง 4.5 กิโลกรัม ในขณะที่ตัวเดิม DJI Ronin-S รับน้ำหนักได้มากที่สุด 3.6 กิโลกรัม จึงสามารถรับน้ำหนักกล้องระดับ Professional เและเลนส์ขนาดใหญ่ได้ โดยไม่เสียสมดุล หรือต้องถ่วงน้ำหนัก
DJI RS 2 ออกเเบบให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น อำนวยความสะดวกได้มากขึ้น
ด้วยการออกเเบบโดยคำนึงถึงความสะดวกเเละความง่ายในการควบคุมและใช้งานของผู้ใช้ DJI จึงปรับให้ DJI RS 2 มีการควบคุม การถือจับ มีกลไกทำงานและการใช้งานทั้งง่ายเเละสะดวก การปรับโฟกัสทำได้ได้ตรงจากกิมบอล
ทั้งยังมีการจัดว่าเพื่อให้ปรับได้ง่าย โดยคำนึงถึงสรีระการวางมือ จึงวางตำเเหน่งของนิ้วชี้ด้านหน้าให้เป็นตำแหน่งของโฟกัส ซึ่งสามารถปรับโฟกัสได้โดยใช้เพียงนิ้วชี้ ทั้งยังมีกลไกที่ช่วยปรับโฟกัสให้กับเลนส์ ถึงเเม้ว่าจะเป็นเลนส์มือหมุนก็ตาม โดยที่ DJI Ronin-S ยังต้องใช้อีกมือเพื่อหมุนปรับโฟกัส
DJI RS 2 มีหน้าจอสี 1.4 นิ้ว บนกิมบอล เพื่อให้เห็นสถานะการทำงาน การตั้งค่า และโหมดการทำงาน
หน้าจอสี 1.4 นิ้วไม่เพียงเเต่จะเป็นจอเพื่อให้ติดตามดูสถานะการใช้งานเท่านั้น ยังเป็นจอเเบบสัมผัส สามารถเเตะเพื่อเลือกโหมดการทำงาน เเละควบคุมการทำงานของกิมบอลได้เลย ซึ่งใน DJI Ronin-S ยังไม่มีหน้าเเบบ Build-in มาให้จอ เเละการดูสถานะเเละปรับโหมดการทำงาน ก็สามารถทำได้บนหน้าจอมอนิเตอร์ หรือมือถือที่มีแอปพลิเคชั่นเท่านั้น
DJI Ronin-S DJI RS 2
DJI RS 2 เทฟลอนที่เป็นวัสดุเคลือบทำให้เลื่อนเพลทได้ไหลลื่น ทั้งยังมีสเกลช่วยจึงใช้เวลาในการบาลานซ์น้อยลง
นอกจากจะมีขนาดที่เล็กลง เเต่รับน้ำหนักกล้องได้มากขึ้นเเล้ว DJI RS 2 ยังบาลานซ์ง่ายขึ้นและทำให้การบาลานซ์ในเเต่ละช็อตทำได้เร็วชึ้น ด้วยการมีสเกลช่วยให้รู้ระยะมากเอียงมากน้อย ที่ปรับขึ้นมาอีกอย่างคือ มีปุ่มปรับบาลานซ์เเบบละเอียด จึงข่วยให้บาลานซ์ได้ละเอียดมากขึ้น ง่ายมากขึ้น เมื่อเทียบกับการปรับบาลานซ์บน DJI Ronin-S
ทั้งยังมีตัวล็อคที่ช่วยให้ยึดบาลานซ์ไม่ให้เปลี่ยนตำเเหน่ง ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายใจ ทั้งป้องกันการเปลี่ยนตำเเหน่งระหว่างการขนย้ายหรือเคลื่อนที่นั่นเอง
DJI RS 2 มีระบบกันสั่นที่พัฒนาให้กันสั่นได้ดีมากกว่าเดิม จับการสั่นได้ถึงเเม้จะเป็นเเรงสั่นเล็ก ๆ
ระบบกันสั่นเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของกิมบอล DJI จึงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้กันสั่นทำงานได้ดีที่สุด ซึ่งบน DJI RS 2 ก็เป็นการใช้อัลกอริทิ่ม Titan Stabilization เพื่อระบบกันสั่นที่ดีขึ้นกว่าเดิม
โดยฟีเจอร์ใช้งาน SuperSmooth พัฒนาให้ถ่ายภาพได้คมชัด นิ่ง นิ่มนวล มากกว่าเดิม ได้ภาพที่นิ่ง เเม้จะถ่ายตอนที่เคลื่อนที่หรือเคลื่อนไหวก็ตาม ตอบโจทย์การทำงานด้านการผลิตภาพยนตร์ ซึ่งบน DJI Ronin-S ไม่รองรับการทำงานกับ SuperSmooth
DJI RS 2 มีฟีเจอร์ใช้งานที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานภาพยนตร์
ActiveTrack 3.0
DJI RS 2 ยังคงใช้ระบบติดตามตัวเเบบเหมือนเดิมที่เคยใช้บน Ronin-S เเต่ ActiveTrack 3.0 บน DJI RS 2 มีการปรับเเละพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ติดตามตัวได้เเม่นยำขึ้นอีก
RavenEye
ระบบการส่งผ่านข้อมูลไร้สาย ส่งสัญญาณวิดีโอระดับ Full HD ด้วยฟีเจอร์ RavenEye Image Transmission System บน DJI RS 2 ทำให้การควบคุมการทำงานของกิมบอลง่าย เเละสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ส่งสัญญาณได้ไกล 200 เมตรโดยมีความหน่วงข้อมูลอยู่ที่ 60 มิลลิวินาที ซึ่ง DJI Ronin-S ยังไม่รองรับการทำงานในระบบนี้
DJI RS 2 ใช้ระบบ 3D Focus System เพิ่มเซ็นเซอร์ ToF ช่วยให้จับโฟกัสเเม่นขึ้นถึงเเม้จะเป็นเลนส์มือหมุน
ระบบ 3D Focus System บน DJI RS 2 พัฒนามาจาก DJI Ronin-S โดยการเพิ่ม focus wheel ที่อยู่ด้านหน้ากิมบอล เเละเพิ่มเซ็นเซอร์ ToF sensors ที่ช่วยจับโฟกัสให้เเม่นยำขึ้นเมื่อใช้ manual lenses หรือการถ่ายงานในที่เเสงน้อย จึงช่วยให้การถ่ายทำเป็นไปได้ในทุกสภาพ
DJI RS 2 ถ่ายแนวตั้งได้ คลิกเดียวปรับหมุนเปลี่ยนเเนวนอนเเนวตั้งได้รวดเร็ว
DJI RS 2 มีฟีเจอร์ใหม่ที่ปรับถ่ายภาพเเนวตั้งได้ง่ายดาย เพียงการกดสั่งงานเพียงครั้งเดียว ปรับเเกนถ่ายภาพแนวตั้งเเนวนอนได้ทันที โดยที่ไม่ต้องปรับบาลานซ์ใหม่ทุกครั้งไป เหมาะสำหรับ creator ที่ต้องทำงานบนโซเชียลมีเดีย ซึ่ง DJI Ronin-S ยังไม่มีความสามารถด้านนี้
DJI RS 2 มีเเบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานทั้งวัน ชาร์จเร็ว ชาร์จไปทำงานไปก็ยังได้
เเบตเตอรีของทั้ง DJI RS 2 และ DJI Ronin-S ใช้งานต่อเนื่องวัน ยาวนาน 12 ชั่วโมง เเต่ที่ DJI RS 2 ต่างออกไปคือ คุณสมบัติการชาร์จเต็มเร็วจาก 0-100% ใช้เวลาชาร์จเพียง 1.5 ชั่วโมง ในขณะที่ DJI Ronin-S ใช้เวลา 2.25 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จขณะทำงานได้อีกด้วย
DJI RS 2 รองรับการต่อพ่วงกับอุปกรณ์เสริม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เเละการผลิตงานในระดับที่ใหญ่ขึ้น
ต่อเข้ากับอุปกรณ์เสริมเพื่อการควบคุมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น RSA และ NATO ทำให้สามารถใช้งานอุปกรณ์เสริมในระดับมืออาชีพได้ทันที รองรับการทำงานในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้ ซึ่งถ้าหากใครที่ทำงานด้านภาพยนตร์เเละต้องการกิมบอลที่รองรับการทำงานที่ครอบคลุม DJI RS 2 ค่อนข้างจะตอบโจทย์การทำงานได้ตรงจุดมากกว่า DJI Ronin-S