GoPro Hero 8 Black vs GoPro Hero 7 Black สิ่งที่เหนือกว่า และสิ่งที่ทำได้เหมือนกัน

October 1, 2019
Brand, GoPro, Product, Reviews

GoPro Hero 8 Black vs GoPro Hero 7 Black สิ่งที่เหนือกว่า และสิ่งที่ทำได้เหมือนกัน ในประเด็นนี้เราจะมาเจาะเรื่องของสิ่งที่ใหม่ใน GoPro Hero 8 Black เวลาคนที่ซื้อผมก็เชื่อว่าต้องการข้อมูลนี้ในการตัดสินใจว่าสิ่งที่ดีกว่ามันต่างจากเดิมเรื่องไหนบ้าง และก็มีสรุปจุดที่ทำได้เหมือนกันด้วย

GoPro Hero 8 Black vs GoPro Hero 7 Black สิ่งที่เหนือกว่า และสิ่งที่ทำได้เหมือนกัน

ในจุดเด่นด้านล่างนี้จะเป็นความสามารถที่ GoPro Hero 8 Black เหนือกว่านะครับ ส่วนที่ทำได้เหมือนกัน ผมจะสรุปรวบไว้ด้านล่างสุดเนอะ เพื่อการอ่านที่เข้าใจได้ง่ายและรวดเร็ว

สิ่งที่ GoPro Hero 8 Black เหนือกว่า GoPro Hero 7 Black

1. รายละเอียดภาพนิ่ง GoPro Hero 8 Black ทำออกมาได้ดีกว่า GoPro Hero 7 Black

การประมวลผลภาพและการปรับปรุงภาพนิ่งเมื่อถ่ายภาพออกมาของ GoPro Hero 8 Black จะเน้นการเก็บรายละเอียดในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ให้ Detail เยอะขึ้น โดยเฉพาะโหมด Super Photo HDR ที่ใส่เพิ่มเข้ามา ก็ได้ประสิทธิภาพมาจากเซ็นเซอร์และความสามารถในการประมวลผลภาพที่ดีขึ้นของ GoPro Hero 8 Black นี่แหละ

2. HyperSmooth 2.0 ระบบกันสั่นที่นิ่งกว่า GoPro Hero 7 Black

GoPro Hero Black ระบบกันสั่นที่นิ่งกว่าเดิม โดยใช้ชื่อว่า HyperSmooth 2.0 ซึ่งในรุ่นเดิมของ GoPro Hero 7 Black ก็นิ่งมากแล้วล่ะ แต่รุ่นใหม่ก็ถูกอัพเกรดให้นิ่งมากขึ้นไปอีก เหมาะสำหรับกีฬาระดับ Extreme หรือการวิ่งถ่ายกันเลย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ GoPro Hero 8 Black สามารถใช้งานถ่ายวิดีโอได้โดยที่ไม่ต้องพึ่ง Gimbal Stabilizer

3. Timewarp 2.0 การถ่ายวิดีโอ Hyperlapse เวอร์ชั่นใหม่ที่ง่ายและสวยงามมากขึ้น

โหมด Timewarp 2.0 คือสวรรค์ของคนที่อยากได้ Footage แบบ Hyperlapse ซึ่งจะทำให้ได้วิดีโอเคลื่อนไหวแบบ Timelapse แต่เดินไปมาได้ ซึ่งยากมากที่จะถ่าย ตั้งแต่ GoPro Hero 7 Black เปิดตัวโหมด Timewarp ขึ้นมาก็ได้รับความนิยมอย่างมากในการไปผลิตเป็น Footage สำหรับ Insert Video

ในรุ่น Timewarp 2.0 นั้นจะสามารถทำให้วิดีโอของเราสวยงามขึ้นไปอีก ความ Smooth มีมากขึ้น และก็สามารถที่จะเบลอการเคลื่อนไหวได้อย่างนุ่มนวล และที่สำคัญใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่ระดับเริ่มต้นทุกคนกันเลย

4. Housing แบบใหม่ที่ทำให้การถ่าย Video มีประสิทธิภาพดีขึ้น ทั้งเรื่องของ Microphone และชุดไฟเสริมแบบแยก

สิ่งหนึ่งที่ GoPro Hero 8 Black ได้ยืนยันจุดยืนของการถ่ายวิดีโอออกมาให้เห็นได้ชัดคือการผลิต Housing สำหรับการถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะออกมา ซึ่งได้ขยายเรื่องของประสิทธิภาพในการรับเสียงให้ดีขึ้น

ซึ่งไมโครโฟนสำหรับ GoPro Hero 8 Black ดีอยู่แล้วแหละเพราะใส่ไมโครโฟนมา 3 ตัว แล้วก็ให้มิติเสียงที่ดีมาก ถ้าหากใครคิดว่ายังไม่สุดพอ อยากได้ไมค์ดีขึ้นอีกก็ต่อ Housing เพิ่ม เพราะทำให้ได้เสียงที่ดีขึ้น แล้วก็สามารถต่อชุดไฟเสริมแยกได้อีกด้วย

5. Super Photo HDR ความสามารถในการถ่ายภาพแบบ Super Photo ที่ดีกว่าเดิม

ในโหมด Super Photo HDR ถูกอัพเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนที่ใช้ชื่อแค่ Super Photo ด้วยที่ GoPro Hero 8 Black มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของการถ่ายภาพให้สูงมากขึ้น โหมดนี้ก็เลยได้รับความสามารถสูงขึ้นไปอีกคือได้ทั้งภาพแบบ Super Photo สวยงามและมี Dynamic Range ที่มากกว่าเดิมด้วย เป็นจุดเด่นของการถ่ายภาพนิ่งเลย

ไม่ว่าเราจะถ่ายภาพย้อนแสง หรือว่าถ่ายในพื้นที่ซึ่งมีความเปรียบต่างของแสงเยอะ ตัว Super Photo นั้นก็จะสามารถที่จะทำให้เราได้คุณภาพของไฟล์ภาพนิ่งที่ยังคงความสวยงามมากเหมือนเดิม

6. การสั่งงานทำได้เร็วขึ้น และไม่ค้างง่ายเหมือนรุ่น GoPro Hero 7 Black

การทำงานลื่นไหลมากขึ้นที่ถูกปรับปรุงจากรุ่นก่อน ก็ทำได้ดีมากขึ้นโดยเฉพาะอาการค้างที่ลดลงไปมาก ซึ่งการค้างมันเป็นไปได้หลายปัจจัยแหละ แต่ด้วยที่รุ่นก่อนอย่าง GoPro Hero 7 Black ได้อัพเกรดเฟิร์มแวร์ใหม่ อาการก็หายไปเยอะ รุ่นที่ 8 ก็แทบไม่มีแล้วล่ะ แต่ก็อย่างที่บอกหลายปัจจัยเราก็อาจจะเจอกับตัวบ้าง แต่ประเด็นนี้หายห่วงครับ

7. มีตัวล็อคด้านใต้กล้องแบบไม่ต้องอาศัย Case Lock แบบ GoPro Hero 7 Black

เรื่องของตัวล็อคด้านใต้เป็นอะไรที่ว๊าวมากเหมือนกันแม้จะเล็กน้อยก็เถอะ ปกติมันต้องพกตัว Case ไปด้วยเพราะเราต้องการใช้พื้นที่ด้านล่างไว้ล็อคกล้อง GoPro แต่ในรุ่น GoPro Hero 8 Black มีให้ใช้อยู่ด้านล่างเลย เราก็ต่อ Mount กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยตรงครับ ประหยัดทั้งพื้นที่กระเป๋าและไม่ต้องพกเคสให้วุ่นวายด้วย

สิ่งที่ GoPro Hero 8 Black และ GoPro Hero 7 Black ทำได้ดีและทำได้เท่ากัน

1. เฟรมเรตสูงสุดที่ 240 FPS และสามารถสโลวโมชั่นได้ 8 เท่า
2. จอด้านหน้าสำหรับบอกสถานะการถ่ายวิดีโอ
3. กันน้ำลึก 10 เมตรแบบไม่ต้องใส่ Hosing
4. ไมโครโฟน 3 ตัวสำหรับบันทึกเสียง ทำให้คุณภาพเสียงดีแม้ไม่ได้ต่อไมโครโฟนแบบแยก
5. การสั่งงนานด้วยเสียงและหน้าจอแบบสัมผัส
6. โหมดโปรในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
7. Profile สีแบบ GoPro ที่ได้สีสด สวยงามมากขึ้น
8. การถ่ายภาพนิ่งแบบ RAW File ที่สามารถนำภาพไปแต่งต่อได้
9. รองรับการ Live Streaming

สรุปแบบฟันธง

GoPro Hero 8 Black ดีขึ้นแน่นอน คุ้มแน่นอนสำหรับคนที่ยังไม่มี GoPro Hero 8 Black หรือยังไม่มีกล้องวิดีโอเลย อยากได้กล้องแบบง่าย ๆ ตัวกล้องรุ่นนี้จบได้ในเกือบทุกประเด็นเลย ตั้งแต่ถ่ายภาพนิ่ง วิดีโอ การบันทึกเสียง ความคล่องตัว กันน้ำ มีเคสให้ใช้เพียบ

แต่คนที่มี GoPro Hero 7 Black อยากจะอัพเกรดก็ซื้อได้เลยถ้าไม่ติดเรื่องการลงทุนนะ แต่ถ้าหากว่าใครยังไม่ไหวจะอัพ แนะนำว่ารุ่นเก่าก็ยังใช้ดีมาก ๆ อยู่แล้วครับ