5 สิ่งที่มือใหม่ควรคำนึงถึงในการเลือก ND Filter สำหรับภาพถ่าย Landscape ให้ออกมาสวย นุ่มละมุน
การเลือกใช้ฟิลเตอร์ ND หรือ Neutral Density Filters เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ หากอยากให้ได้ภาพทิวทัศน์ที่ออกมาสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ สามารถสร้างสรรค์เอฟเฟกต์ได้อย่างเต็มที่ หลักในการพิจารณามีอะไรบ้าง ?
1.เลือกการ Coating ของฟิลเตอร์ เพื่อให้สีสันของภาพดูสมจริงมากขึ้น
สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงในการเลือกฟิลเตอร์ถ่ายภาพ Landscape คือ สีสันของภาพ เพื่อให้ภาพดูสมจริงเนื่องจากการถ่ายภาพ Landscape จำเป็นต้องเปิด Speed shutter เพื่อให้เห็นเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวของก้อนเมฆ หรือน้ำทะเลในสภาพแสงจ้า จึงต้องอาศัยการใช้ฟิลเตอร์ ND ที่มีการเคลือบสาร Coating ควบคุมปริมาณแสงได้อย่างเหมาะสม และปรับปรุงการส่องผ่านของแสงที่ช่วยให้สีใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติมากขึ้น ฟิลเตอร์เคลือบสาร Coating เช่น Nano-Coating, Multi-Coating เป็นต้น เพื่อให้ภาพออกมาดูสมจริงมากที่สุด
2.คุณสมบัติการกันน้ำและกันรอยขีดข่วน
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญในการเลือกซื้อฟิลเตอร์ คือ มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ หรือ Waterproof Coating หรือไม่ เพราะการถ่ายภาพ Landscape ส่วนใหญ่จะต้องลุยไปสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความชื้น และละอองน้ำ เช่น น้ำตก ทะเล ดังนั้นฟิลเตอร์ที่มีการเคลือบ Waterproof Coating ป้องกันละอองน้ำ หรือฝุ่นละอองที่ติดเกาะหน้าฟิลเตอร์ ช่วยให้ถ่ายภาพคมชัด เพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพทุกสถานที่
3.เลือกวัสดุที่เป็นกระจก Optical Glass
การเลือกฟิลเตอร์ที่ดีนอกจากจะช่วยในเรื่องปกป้องหน้าเลนส์แล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย คือ ความคมชัด ซึ่งวัสดุนำมาผลิตฟิลเตอร์แผ่นหลัก ๆ มีอยู่ 2 แบบ ด้วยกัน คือ แผ่นกระจก และฟิลเตอร์เรซิน แต่ละชนิดมีทั้งข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยรวมฟิลเตอร์แบบเรซิน จะมีความทนทานยืดหยุ่นสูง แต่จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดรอยขีดข่วนบนฟิลเตอร์ ทำให้ภาพไม่คมชัด
ส่วนฟิลเตอร์ที่เลือกใช้กระจก Optical Glass ในการผลิต จะทำให้สีสันสมจริงขึ้น ไม่ลดทอนความคมชัด ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน เนื่องจากวัสดุการผลิตแบบเดียวกันกับที่ใช้ผลิตเลนส์ถ่ายภาพ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ได้ความคมชัดไม่ลดลงแม้แต่น้อย
4.เลือกความเข้มของฟิลเตอร์ ได้เอฟเฟกต์สายน้ำที่นุ่มนวล
ฟิลเตอร์ ND จะมีความเข้มให้เลือกใช้งานหลายระดับ ถ้าเป็นการถ่ายภาพทะเล น้ำตกในช่วงกลางวันแดดจ้า หรือแดดช่วงสาย แนะนำแบบ 6-10 Stop เพราะจะช่วยลดปริมาณแสงได้เยอะ ยิ่งจำนวน Stop เยอะ ก็ยิ่งมีความเข้มสูง หมายความว่าลดปริมาณแสงได้มากนั่นเอง เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน
โดยฟิลเตอร์ ND ออกแบบมาเพื่อลดแสงให้การเบลอที่เกิดเอฟเฟกต์ ที่ต้องปรับ Shutter Speed ต่ำ ๆ ด้วย เพื่อให้เราถ่ายภาพน้ำตก หรือทะเลช่วงกลางวันได้สบาย ๆ ได้เอฟเฟกต์สายน้ำที่นุ่มนวลตามที่ต้องการ
5.เลือกฟิลเตอร์แบบปรับ Stop ได้
หลักการเลือกฟิลเตอร์ควรเลือก ND Filter แบบปรับค่าสต็อปได้ หรือปรับระดับความเข้ม-ความอ่อนของค่าแสงได้ โดยควบคุมได้ง่ายด้วยการหมุนฟิลเตอร์ เพื่อปิดกั้นแสงในลักษณะที่ต่างกัน
เช่น ถ้าถ่ายภาพในที่แสงน้อย ก็อาจจะปรับฟิลเตอร์ที่มีความเข้มน้อยแบบ 2 Stop แต่ถ้าถ่ายในที่แสงแดดแรง ๆ ปรับเปลี่ยนฟิลเตอร์ที่มีความเข้มสูงแบบ 7 Stop โดยไม่จำเป็นต้องซื้อฟิลเตอร์หลายชิ้น สามารถแทนการพกพา ND Filter หลายๆ เบอร์ได้ ประหยัดเงินและเวลา ทั้งยังช่วยเพิ่มจังหวะในการถ่ายภาพได้เยอะขึ้นในช่วงกลางวัน เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน