ฟิลเตอร์ White Mist กับ Black Mist มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เหมาะกับงานประเภทไหน ?

ในบทความก่อนหน้านี้ เพื่อน ๆ คงได้ทำความรู้จักกับ Diffusion Filter ทั้ง Black Mist และฟิลเตอร์ White Mist กันมาบ้างแล้ว สำหรับใช้เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ในงานภาพนิ่ง และวิดีโอสวยงาม ละมุนชวนฝัน แต่ก็ยังมีคำถามชวนสงสัย และอาจจะสับสนอยู่บ้างว่า ระหว่างฟิลเตอร์ White Mist กับ Black Mist แตกต่างกันอย่างไร เพราะเอฟเฟกต์ที่มีความใกล้เคียงกันมาก ดังนั้นวันนี้จะมาไขคำตอบกันครับ

ความหมายของฟิลเตอร์ White Mist กับ Black Mist

ความหมายของ White Mist Filter คือ หมอกสีขาว และ Black Mist Filter คือ หมอกสีดำ ทั้งสองฟิลเตอร์เป็น Diffusion Filter เหมือนกันที่จะทำหน้าที่กระจายแสง เพื่อสร้าง Mood&Tone ของภาพ หรืออารมณ์ของภาพนั่นเอง โดยฟิลเตอร์ Black Mist จะให้เอฟเฟกต์ที่เหมือนมีหมอกสีดำบาง ๆ ปกคลุมอยู่ในภาพ ให้อารมณ์ของภาพออกมาเป็น Cinema Look มากขึ้น

ส่วน White Mist Filter เอฟเฟกต์หมอกสีขาว จะให้เอฟเฟกต์ที่เหมือนมีหมอกสีขาวปกคลุมบาง ๆ อยู่ในภาพ ให้อารมณ์ของภาพออกมาเป็น Dreamy Look ซึ่งทั้งสองฟิลเตอร์จะนิยมใช้ถ่ายภาพย้อนแสง เพื่อให้เกิดเอฟเฟกต์ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งใช้ได้ทั้งงานถ่ายภาพนิ่ง ถ่าย Portrait ถ่ายภาพ Landscape เป็นต้น

การลด และการเพิ่ม Highlight ในส่วนที่สว่าง

Black Mist Filter จะไปเพิ่มรัศมีของแหล่งกำเนิดแสง ทั้งแสงธรรมชาติ และแสงเทียม ไม่ว่าจะเป็น หลอดไฟ โคมไฟ ดวงไฟ ฯลฯ ซึ่งตัวรัศมีของแหล่งกำเนิดแสงจะฟุ้งออกมาจากดวงไฟ แต่แสงสีขาวของ Highlight จะไม่เพิ่มขึ้น กลับลดลง

ในขณะที่ White Mist Filter ทำหน้าที่สร้าง Glow effect ที่เกิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดแสงทั้งแสง ทั้งแสงธรรมชาติ และแสงเทียม โดยจะไปเพิ่ม Glow effect ใน Highlight ซึ่งแตกต่างจากฟิลเตอร์ Black Mist

ลดคอนทราสต์โดยรวมของภาพเหมือนกัน แต่ให้ผลลัพธ์ของภาพต่างกัน

ฟิลเตอร์ White Mist และ Black Mist ทำหน้าที่ลดคอนทราสต์โดยรวมของภาพเช่นเดียวกัน แต่ผลลัพธ์แตกต่างกัน ด้วยคุณสมบัติของ Black Mist ที่ทำหน้าที่ลดคอนทราสต์โดยรวมของภาพ เพิ่มรัศมีของภาพให้ฟุ้งนุ่มนวล แต่ไม่ได้เพิ่มความสว่างในไฮไลท์ ทำให้ภาพนุ่มนวล และดูซอฟต์ ให้อารมณ์ภาพดูเหมือนเป็นแนว Cinema look มากขึ้น

แตกต่างกับฟิลเตอร์ White Mist ที่เพิ่ม Glow effect ในไฮไลท์ และลดคอนทราสต์ในภาพลงเล็กน้อย ช่วยให้บริเวณรัศมีที่ Glow effect ที่ถูกขยายออกมาจะมีความนุ่มนวลเหมือนมีหมอกขาวปกคลุมบาง ๆ ในภาพ ทำให้ภาพโดยรวมสว่างขึ้น และขาวมากขึ้น ช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลให้ผิวสว่างขึ้นด้วย ดูนุ่มนวลชวนฝันเป็นแนว Dreamy Look

ช่วยปรับผิวให้ดูเรีบบเนียน นุ่มนวล

ฟิลเตอร์ทั้งสองแบบที่กระจายแสง และช่วยให้เกิดเอฟเฟกต์ในภาพ จะทำให้ผิวตัวแบบให้ดูเรียบเนียน ดูนุ่มนวล และลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้ เหมาะอย่างยิ่งในงานถ่าย Portrait ยิ่งเป็น White Mist ที่สามารถสร้างเอฟเฟกต์ Glow ก็จะยิ่งทำให้เห็นการลดริ้วรอยที่ผิวแบบได้มากกว่าฟิลเตอร์ Black Mist

เหมาะกับงานประเภทไหน ?

ฟิลเตอร์ White Mist และ Black Mist ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ของการสร้าง Mood&Tone ของภาพ โดยฟิลเตอร์ Black Mist ให้อารมณ์ของภาพที่ดูเป็น Cinematic Look แต่ฟิลเตอร์ White Mist จะให้อารมณ์ของภาพดู Dreamy Look ภาพขาวละมุนชวนฝันมากกว่า ทั้งสองฟิลเตอร์เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งงานภาพนิ่ง เช่น ถ่าย Portrait ถ่ายภาพ Lanscape การถ่ายงานวิดีโอ และงานภาพยนตร์ สามารถเลือกใช้งานตามความเหมาะสมของลักษณะงานได้เลย

White Mist Filter และ Black Mist Filter เป็นที่นิยมใช้งานกันมากขึ้น ด้วยความสามารถที่ใช้สำหรับสร้างสรรค์เอฟเฟกต์ให้ภาพแตกต่างจากเดิม ให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจ ดูแล้วไม่น่าเบื่อ โดยที่ไม่ต้องไปตกแต่งภาพในโปรแกรม Photoshop และ Lightroom ให้ยุ่งยากและเสียเวลา ดังนั้น Diffusion White Mist Filter และ Black Mist Filter จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก หากใครกำลังมองหาฟิลเตอร์ดี ๆ แนะนำแบรนด์ K&F เพราะเป็นฟิลเตอร์คุณภาพสูง มีให้เลือกหลายรายการ ในราคาย่อมเยา เพื่อการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ฟิลเตอร์ที่ช่างภาพนิยมใช้งานกัน เพื่อสร้างสรรค์งานได้อย่างที่ต้องการ

สนใจเป็นเจ้าของฟิลเตอร์ K&F หรือต้องการคำปรึกษาในการเลือกฟิลเตอร์ สามารถสอบถามได้ที่ Lnwgadget พร้อมให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย