เปรียบเทียบ SARAMONIC BLINK 500 PRO vs RODE WIRELESS GO ไมโครโฟนไร้สายเลือกใช้รุ่นไหนดี ถึงจะเหมาะกับงานของเรา

October 6, 2020
Reviews

เปรียบเทียบ SARAMONIC BLINK 500 PRO vs RODE WIRELESS GO ไมโครโฟนไร้สายเลือกใช้รุ่นไหนดี ถึงจะเหมาะกับงานของเรา ไมโครโฟนไร้สายในบัจจุบันมีให้เลือกใช้งานตามคุณภาพ ราคา เเละความเหมาะสมกับงานซึ่ง แบรนด์ต่าง ๆ ก็คิดผลิตภัณฑ์เพื่อออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานในลักษณะที่เเตกต่างกันไป

ซึ่งในตลาดไมค์ไร้สายในตอนนี้ SARAMONIC BLINK 500 PRO vs RODE WIRELESS GO ถือว่ามีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน เรามาดูกันว่า ถ้าเราจะเลือกซื้อไมค์เพื่อจะนำมาใช้งาน ระหว่าง BLINK 500 PRO vs RODE WIRELESS GO ใช้แบบไหนดี ถึงจะเหมาะกับงานของเรา

เปรียบเทียบ SARAMONIC BLINK 500 PRO vs RODE WIRELESS GO ไมโครโฟนไร้สายเลือกใช้รุ่นไหนดี ถึงจะเหมาะกับงานของเรา

SARAMONIC BLINK 500 PRO และ RODE WIRELESS GO เป็นไมโครโฟนที่ให้คุณภาพเสียงสูง เนื้อเสียงเเน่น คมชัด

SARAMONIC BLINK 500 และ RODE WIRELESS GO เป็นไมโครโฟนเเบบ omnidirectional condenser คือสามารถเก็บรายละเอียดเสียงได้รอบทิศทางเเละมีคุณภาพเสียงสูง ครอบคลุมความถี่เสียงช่วงกว้าง ใช้เป็นไมค์ติดปกเสื้อได้ หรือจะต่อเข้ากับไมโครโฟนภายนอกที่ให้คุณภาพเสียงสูงขึ้น หรือรองรับเสียงในงานเฉพาะทางได้ด้วย ผ่านช่องใส่ไมค์ 3.5 mm

โดย RODE WIRELESS GO จะเก็บรายละเอียดเสียงตั้งเเต่ช่วง 50 Hz ไปจนถึง 20 kHz และ SARAMONIC BLINK 500 PRO จะเก็บรายละเอียดเสียงตั้งเเต่ช่วง 50 Hz ไปจนถึง 18 kHz ซึ่ง RODE WIRELESS GO จะเก็บช่วงเสียงได้กว้างกว่า SARAMONIC BLINK 500 PRO อยู่เพียงเล็กน้อยจนเเทบเหมือนว่าจะจะอยู่ในช่วงเดียวกัน ดังนั้นคุณภาพในการเก็บเสียง จึงคมชัดไม่ต่างกันจนเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน

SARAMONIC BLINK 500 PRO เและ RODE WIRELESS GO ดีไซน์สวย ออกเเบบเพื่อให้ใช้งานได้ทั้งซ่อนใต้เสื้อผ้าหรือจะโชว์ให้เห็นไมค์ก็ได้

SARAMONIC BLINK 500 PRO เและ RODE WIRELESS GO ออกเเบบเเละดีไซน์การใช้งานเพื่อให้เป็นไมโครโฟนที่ติดเพื่อซ่อนในเสื้อผ้า หรือจะติดไว้ข้างนอกเพื่อให้เห็นไมโครโฟนก็ได้ โดยมีรูปร่างที่เล็ก น้ำหนักเบามาก ซึ่ง SARAMONIC BLINK 500 PRO จะมีรูปร่างเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าขอบมน ส่วน RODE WIRELESS GO รูปร่างจะเป็นสี่เปลี่ยมจัตุรัสขอบมน

สีของ SARAMONIC BLINK 500 PRO เและ RODE WIRELESS GO ก็มีให้เลือกใช้ตามความชอบ ทั้งสีดำและสีขาว

ซึ่งดีไซน์ความสวยงาม เเละ สีที่เลือก ก็คงต้องเเล้วเเต่สไตล์ของผู้ใช้ ว่าจะเลือกเเบบไหนที่จะเข้ากับความเป็นตัวเองและสื่อถึงตัวเองมากที่สุดนั่นเอง

SARAMONIC BLINK 500 PRO เป็นแบบ 2:1 เเต่ RODE WIRELESS GO เป็นเเบบ 1:1

SARAMONIC BLINK 500 PRO เป็นไมโครโฟน 2:1 คือมีไมโครโฟน 2 ตัวและมีตัวรับสัญญาณ 1 ตัว ที่ติดอยู่กับกล้องหรือมือถือที่จะรับสัญญาณเสียงจากไมค์ เพื่อบันทึกลงไปที่กล้องหรือโทรศัพท์ โดยระบบที่มีไมค์สองตัวรองรับการทำงานที่ต้องมีการพูดกันสองฝ่าย ถามตอบ สัมภาษณ์ หรือการสื่อสารกันสองคน

ส่วน RODE WIRELESS GO เป็นเเบบ 1:1 คือมีไมค์และตัวรับสัญญาณอย่างละตัว เหมาะสำหรับการทำงานที่ผู้พูดมีเพียงคนเดียว

SARAMONIC BLINK 500 PRO ส่งสัญญาณได้ไกลสุด 100 เมตร และ RODE WIRELESS GO ส่งสัญญาณได้ไกล 70 เมตรเพราะใช้ระบบสัญญาณ DIGITAL ความถี่ 2.4 GHz เป็นระบบของสัญญาณไร้สายที่ส่งสัญญาณได้นิ่ง เสถียร เเละมีประสิทธิภาพ ส่งสัญญาณได้ไกล

ระบบสัญญาณ DIGITAL ความถี่ 2.4 GHz เป็นระบบของสัญญาณไร้สายเเบบสากลที่นิยมใช้เป็นความถี่หลักในการส่งสัญญาณไร้สายในปัจจุบันเพราะส่งสัญญาณได้นิ่ง เสถียร เเละมีประสิทธิภาพ ส่งสัญญาณได้ไกล ไมค์ไร้สายทั้ง SARAMONIC BLINK 500 PRO และ RODE WIRELESS GO จึงถูกออกเเบบให้มีการส่งสัญญาณระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดย SARAMONIC BLINK 500 PRO ส่งสัญญาณได้ไกลสุด 100 เมตร และ RODE WIRELESS GO ก็ส่งสัญญาณได้ไกล 70 เมตร เลยทีเดียว

เหมาะสำหรับการทำงานบันทึกวิดีโอภาพเเละเสียง เช่นการถ่ายวิดีโอ ภาพยนตร์ การทำงานด้านข่าว รายงานสถานการณ์ ไลฟ์สด หรืองานรีวิวต่าง ๆ ซึ่งการส่งสัญญาณระยะไกลได้ ยิ่งไกลมากเท่าไหร่ ก็ทำงานได้สะดวกมากขึ้น

SARAMONIC BLINK 500 PRO และ RODE WIRELESS GO มีหน้าจอแสดงผล มอนิเตอร์สถานะการทำงานของอุปกรณ์เเละสัญญาณการเชื่อมต่อเเต่ SARAMONIC BLINK 500 PRO มีหน้าจอทั้งตัวรับเเละตัวส่ง

ผู้ผลิตของ SARAMONIC BLINK 500 PRO และ RODE WIRELESS GO คิดเเละใส่ใจผู้ใช้ โดยการใส่จอเเสดงผลไว้ให้ ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการทำงานมากขึ้น โดยจอเเสดงผลจะบอกสถานะการทำงาน ความเเรงของการเชื่อมต่อ ระดับพลังงานของเเบตเตอรี่ เเละคุณภาพของสัญญาณ

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น SARAMONIC BLINK 500 PRO และ RODE WIRELESS GO ก็มีจอไว้ให้ดูเเละมอนิเตอร์งานได้เเบบเรียลไทม์เหมือนกัน

แต่ SARAMONIC BLINK 500 PRO จะมีหน้าจอเเสดงสถานะการทำงานทั้งตัวรับเเละตัวส่งสัญญาณ ซึ่ง RODE WIRELESS GO จะมีหน้าจอเเสดงเฉพาะตัวส่งสัญญาณที่ทำหน้าที่เป็นไมโครโฟนเท่านั้น

แบตเตอรี่ทำงานได้ต่อเนื่องยาวนาน ต่อการชาร์จให้เต็มหนึ่งครั้ง SARAMONIC BLINK 500 PRO ใช้ได้ 8 ชั่วโมง และ RODE WIRELESS GO ใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง เเต่ SARAMONIC BLINK 500 PRO มีกล่องเก็บไมค์ที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้อัตโนมัติ

ไมค์ SARAMONIC BLINK 500 PRO และ RODE WIRELESS GO รองรับการทำงานที่ต่อเนื่องเเบบมืออาชีพได้ ทั้งการถ่ายวิดีโอ หรือภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง หรือการเดินทางไปที่ที่อาจจะหาไฟฟ้าใช้ลำบาก การที่ไมโครโฟนมีพลังงานเพียงพอใช้งานได้นานจึงค่อนข้างมีประโยชน์เเละสำคัญต่อความต่อเนื่องของงานด้วยเหมือนกัน

SARAMONIC BLINK 500 PRO ใช้ได้ 8 ชั่วโมง และ RODE WIRELESS GO ใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง ต่อการชารจ์เต็ม เเต่ SARAMONIC BLINK 500 PRO มีกล่องเก็บไมค์ที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้อัตโนมัติเพียงวางไมโครโฟนเเละตัวรับสัญญาณไว้ในช่องเก็บ กล่องเก็บจะทำการชาร์จเเบตให้ทันทีจึงเหมือนเป็นพลังงานสำรอง เพื่อให้ใช้ไมโครโฟนได้นานขึ้นอีก

เหมาะสำหรับการทำงานที่ต่อเนื่องเเละการทำงานนอกสถานที่เป็นเวลานาน หรือต้องเดินทางตลอดเวลาไม่มีเวลาชาร์จเเบตหรือโอกาสชาร์จเเบต ฯ มีน้อยช่วยลดข้อจำกัดในการทำงาน เเละอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น