
Rode Wireless Go ไมค์ไร้สายสำหรับ YouTuber โดยเฉพาะ
Rode Wireless Go ไมค์ไร้สายสำหรับ YouTuber ซึ่งมีการออกแบบเพื่อตอบโจทย์คนทำคอนเทนต์ในปัจจุบันอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของขนาด ความคล่องตัวและประสิทธิภาพ เดี๋ยวเราไปดูกันว่าจุดเด่นถูกออกแบบมาเจาะกลุ่ม YouTuber มีอะไรบ้าง

Rode Wireless Go ไมค์ไร้สายสำหรับ YouTuber โดยเฉพาะ
1. การออกแบบให้มีความคล่องตัวสำหรับทำงานแบบลุยเดี่ยว
ขนาดของ Rode Wireless Go เล็กมาก เล็กจนทำให้ทั้งตลาดไมโครโฟนไร้สายต้องทึ่งว่าทำไปได้ยังไง แล้วก็ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิมซะอีก ทำให้ความคล่องตัวสูงมาก เราจะติดไว้บน Hot Shoe ก็แทบไม่ทำให้น้ำหนักกล้องเพิ่มขึ้นจนรู้สึกได้เลยแหละ

อีกประเด็นก็คือเรื่องของความคล่องตัวในการใช้งาน มันลงตัวมาก ถ้าใครเป็น YouTuber ระดับเริ่มต้นที่ต้องทำงานคนเดียว บอกเลยว่า Rode Wireless Go คือสวรรค์ของคนใช้ Microphone เลย
2. แบตเตอรี่ที่เพียงพอต่อการถ่ายทำคอนเทนต์อย่างหนักหน่วงในหนึ่งวันด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว
Rode Wireless Go สามารถที่จะใช้งานต่อเนื่องได้นานสุดที่ 7 ชั่วโมง ซึ่งก็เยอะพอต่อการถ่ายวิดีโอคอนเทนต์ยาว ๆ หนึ่งตอน โดยเฉพาะคนที่เป็นสาย Vlog แน่นอนว่าเรื่องของ Battery Life เป็นจุดเด่นที่ตอบโจทย์มากเลย

3. ใช้งานร่วมกับ Gimbal Stabilizer ได้ ทั้ง Gimbal ขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก
สำหรับคนที่มี Gimbal ขนาดใหญ่คงไม่ได้อะไรกับประเด็นนี้มาก แต่คนที่มี Gimbal ขนาดเล็กอย่าง Zhiyun Crane M2 หรืออื่น ๆ ก็สามาถที่จะใช้ Rode Wireless Go ต่อเข้ากับกล้องแล้วขึ้น Gimbal ได้เลย น้ำหนักแทบไม่ระคายกันสั่นแม้แต่น้อย

Rode Wireless Go มีน้ำหนักเพียงแค่ 31 กรัมแค่นั้นเอง เพราะงั้นการติด Rode Wirless Go ไว้บน Hotshoe แล้วขึ้น Gimbal นี่ใช้ได้กับทุก Gimbal เลยจ้า
4. รูปลักษณ์การออกแบบดูสวยงาม เป็นมืออาชีพ แม้ไมโครโฟนจะอยู่ในเฟรมของวิดีโอเรา
สำหรับคนที่ต้องติดไมโครโฟนไว้กับตัวแล้วต้องเป็นคนพูดเข้าเฟรม เรื่องดีไซน์ไมโครโฟนเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่ง Rode เก่งด้านการออกแบบ Microphone มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

สำหรับ Rode Wireless Go นั้น ขนาดจะดูเล็ก สวยงาม ดูเข้ายุคกับคนทำคอนเทนต์ในปัจจุบัน เราจะติดไมค์เข้าเฟรมพูดยังไงก็ดูดี ลงตัว สบายใจหายห่วง
5. การเชื่อมต่อเร็ว ง่าย ไม่เสียเวลา ตอบโจทย์ในช่วงเวลารีบเร่ง
ไมโครโฟน Rode Wireless Go เชื่อมต่อได้ทันทีใน 3 วินาที อันนี้เรื่องจริง เพราะการส่งสัญญาณนั้นเป็นแบบ Wireless 2.4GHz ทำให้เปิดเครื่องก็พร้อมที่จะ Pair ได้เลย ไม่ว่ารีบแค่ไหนก็พร้อมลุยตลอดเวลาแน่นอน

6. ปรับระดับการรับเสียงได้ยืดหยุ่น แม้เจอพื้นที่ Ambient แตกต่างกันก็สามารถทำงานได้ดี
Rode Wireless Go สามารถที่จะปรับระดับเสียงได้ถึง 3 ระดับ คือ 0dB, -6dB, -12dB สามอย่างนี้มีความสำคัญยังไง ประเด็นก็คือว่า เมื่อเราเจอสภาพพื้นที่เสียงดังมาก ๆ การที่ลดระดับเสียงลงไป ทำให้ระยะในการรับเสียงจะอยู่แค่ผู้พูดเท่านั้น ทำให้เหมือนไมค์เลือกรับเสียงใกล้ ๆ เสียงไกล ๆ ก็จะเบาลงไม่เกิดการรบกวนนั่นเอง

ส่วนระดับ 0dB ก็จะเป็นระดับมาตรฐาน ได้เสียงที่ดังชัดเจน และสามารถปรับการรับเสียงเพิ่มจากตัวกล้องเราได้อีก ทำให้ Rode Wireless Go รองรับการบันทึกเสียงได้ในหลายสถานการร์
7. ใช้งานง่ายสำหรับคนมือใหม่ระดับเริ่มต้นแค่ไหน ก็ยังง่ายอยู่ดี
Rode Wireless Go ไม่มีความซับซ้อนในการใช้งานอยู่เลย เปิดเครื่อง เชื่อมต่อไร้สาย ต่อสายพ่วงเข้ากับกล้องคือจบ มีหน้าจอบอกสถานะการทำงาน แล้วทุกอย่างออกแบบเพื่อคนทั่วไปแบบเรียบง่ายที่สุด ไม่ต้องอ่านคู่มือก็สามารถเข้าใจและใช้งานได้ตั้งแต่แรกเห็นเลย
