รีวิว NANLITE FORZA 150B ไฟสตูดิโอแบบปรับแสงสีส้มและสีฟ้าได้ กำลังแรงเกินชื่อรุ่น เหมาะกับงานวิดีโอและภาพนิ่งตั้งแต่เริ่มต้นถึงระดับกลาง

June 29, 2022
Nanlite

รีวิว Nanlite Forza 150B ไฟสตูดิโอแบบปรับแสงสีส้มและสีฟ้าได้ กำลังแรงเกินชื่อรุ่น เหมาะกับงานวิดีโอและภาพนิ่งตั้งแต่เริ่มต้นถึงระดับกลาง ซึ่งไฟสตูดิโอรุ่นนี้ได้รับการออกแบบโดยมองถึงคนทำคอนเทนต์วิดีโอ ถ่ายหนังสั้น งานวิดีโอสัมภาษณ์ หรือจะใช้งานภาพนิ่งก็ได้

กำลังไฟ Nanite Forza 150B นี้จะมีมากถึง 170W เรียกได้ว่ากำลังไฟแรงแซงชื่อรุ่นไปเลย แล้วก็ยังสามารถใช้กับชุดกระจายแสงหลายรูปแบบ เพื่อให้ตอบโจทย์กับทุกงานที่ต้องการ

รีวิว Nanlite Forza 150B ไฟสตูดิโอแบบปรับแสงสีส้มและสีฟ้าได้ กำลังแรงเกินชื่อรุ่น เหมาะกับงานวิดีโอและภาพนิ่งตั้งแต่เริ่มต้นถึงระดับกลาง

จุดเด่นที่น่าสนใจ

กำลังแรง 170W ให้สเปคที่เกินชื่อรุ่น กำลังไฟสว่างสูงเหมาะกับการทำงานตั้งแต่ระดับสตูดิโอเริ่มต้นไปถึงงานมืออาชีพ
ปรับโทนแสงสีฟ้า – สีส้ม ได้ตั้งแต่ 2700K – 6500K
ความแม่นยำของสี CRI 96 และ TLCI 98 ทำให้ใช้ในงานวิดีโอ งานภาพนิ่ง ได้สีที่ถูกต้องเที่ยงตรง
เสียงพัดลมระบายอากาศเงียบ ใช้งานง่ายวิดีโอได้โดยที่เสียงพัดลมไม่เข้าไมค์
ปรับระดับแสงได้ตั้งแต่ 0% – 100% ปรับได้ละเอียด ช่วยให้ได้แสงที่นุ่ม
น้ำหนักเบาเพียงแค่ 1.5 กิโลกกรัมเท่านั้น ทำให้สามารถติดตั้งบนขาตั้งไฟ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในสตูดิโอได้ง่าย
มีชุดกระจายแสงและอุปกรณ์เสริมรองรับหลากหลายงาน
ราคาจำหน่าย 16,900 บาท ประกันศูนย์ไทย และมีจำหน่ายที่ร้านกล้องทั่วประเทศ

ไฟกำลังแสงสูง 170W และปรับอุณหภูมิแสงได้ตั้งแต่โทนสีฟ้า – สีส้ม สำหรับการทำงานทุกแบบ

Nanlite Forza 150B เป็นไฟสตูดิโอที่ปรับโทนของแสงได้ตั้งแต่โทนสีฟ้า ไปจนถึงโทนสีส้ม ซึ่งใช้เลียนแบบแสงธรรมชาติและปรับเป็นโทนแสงไฟแบบในสตูดิโอได้ โดยค่าอุณภูมิแสงปรับได้ตั้งแต่ 2700K – 6500K ทำให้ผู้ใช้สามารถที่จะปรับโทนแสงได้หลากหลายตามงานที่ต้องการ

นอกจากนี้เรื่องของกำลังไฟ Nanlite Forza 150B จะให้กำลังไฟที่ 170 วัตต์ ซึ่งเรียกได้ว่าให้กำลังไฟที่สเปคแรงกว่าชื่อรุ่น แม้ว่าจะเป็นไฟรุ่นที่ปรับโทนของอุณภูมิแสงได้แต่กำลังก็ยังทำได้แรงมาก ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ไฟที่เต็มกำลัง และสามารถนำไปใช้กับชุดกระจายแสงได้โดยที่ไม่ต้องกังวล ตอบโจทย์ทั้งงานภาพนิ่งและงานวิดีโอ

ความแม่นยำของแสงเที่ยงตรงใช้ได้ทั้งงานวิดีโอ งานภาพนิ่ง ไว้ใจได้ในระดับมืออาชีพและงานเชิงพาณิชย์

การใช้งานไฟสตูดิโอสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากไม่แพ้กันคือเรื่องของความเที่ยงตรงของสีที่ได้จากไฟต้องถูกต้องเหมือนแสงจริง เพื่อให้การถ่ายวิดีโอโฆษณา หรือภาพยนตร์นั้นได้แสงที่ถูกต้อง

โดยค่าที่ CRI (Color Rendering Index) ที่ได้จากไฟ Nanlite Forza ซึ่งเป็นค่าที่บอกถึงความถูกต้องเมื่อแสงไปกระทบวัตถุอยู่ที่ 96 ถือว่าทำได้สูงมาก ค่านี้มีตั้งแต่ 0-100 และไฟที่ดีควรมีค่านี้มากกว่า 95

นอกจากนี้ไฟ Nanlite Forza 150B ยังมีค่า TLCI (Television Lighting Consistency Index) ที่ได้จาก Nanlite Forza 150B อยู่ที่ 98 ซึ่งสูงมาก โดยค่านี้เป็นค่าที่บอกถึงความเที่ยงตรงของสีที่วัดผ่านหน้าจอกล้อง จะมีค่าตั้งแต่ 0-100 และไฟที่ดีควรมีค่านี้ตั้งแต่ 85 ขึ้นไป

ไฟ Nanlite Forza 150B ก็เปรียบได้ว่าเป็นไฟสตูดิโอที่ใช้ในงานมืออาชีพและงานเชิงพาณิชย์ได้อย่างยอดเยี่ยม ตอบโจทย์การทำงานทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นงานสัมภาษณ์ คอนเทนต์ลง Channel หรือแม้แต่งานเชิงพาณิชย์ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

พัดลมระบายอากาศทำได้เงียบ เสียงพัดลมไม่เข้าไมโครโฟน ง่ายต่อการถ่ายวิดีโอ

จุดเด่นของไฟสตูดิโอ Nanlite Forza 150B ยังทำได้ดีมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งคือการระบายความร้อนที่ดี ใช้งานได้ต่อเนื่องและเสียงพัดลมระบายความร้อนก็เงียบ สามารถใช้ถ่ายวิดีโอและบันทึกเสียงได้โดยที่เสียงไม่เข้าไมโครโฟน

ปรับระดับแสงได้ตั้งแต่ 0% – 100% ซึ่งทำให้ปรับระดับแสงได้ละเอียด ได้แสงนุ่มแบบที่ต้องการ

ความสามารถในการปรับระดับแสงไฟของ Nanlite Forza 150B สามารถปรับได้ละเอียดตั้งแต่ 0% ไปจนถึง 100% ช่วยให้เราปรับความสว่างของแสงได้ละเอียดมาก เพื่อให้ได้สภาพแสงตามที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุด

น้ำหนักเบา 1.56 กิโลกรัม ทำให้ติดตั้งกับขาตั้งหรือชุดสำหรับติดตั้งไฟสตูดิโอได้ง่าย

จุดเด่นของไฟสตูดิโอ Nanilte ใน Forza Series ก็คือขนาดและนำ้หนักจะเบามาก ขนาดก็เล็กด้วย ทำให้นอกจากจะเคลื่อนย้ายหรือจัดเก็บเวลาทำงานได้สะดวกแล้ว ยังสามารถที่จะติดตั้งกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นขาตั้งไฟ หรือจะเป็นอุปกรณ์สตูดิโอที่ใช้แขวนไฟเพื่อจัดแสงจากมุมสูงได้อย่างสะดวก

ควบคุมผ่าน Bluetooth และแอพพลิเคชั่น Nanlink ได้ทันที

การปรับตั้งค่าของ Nanlite Forza 150B นอกจากจะปรับได้ที่ตัวไฟแล้วยังสามารถควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น Nanlink และรีโมทได้ ซึ่งโดยเฉพาะการควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่นนั้นทำได้สะดวก และช่วยลดการทำงานของทีม Production ลงได้