พรีวิว DJI RS3 Gimbal Stabilizer รุ่นล่าสุดสำหรับคนเริ่มต้นเก่งกว่าเดิม ดีกว่าเดิมเยอะ ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น และรองรับการทำงานไปจนถึงระดับกลางสำหรับคนที่ทำคอนเทนต์วิดีโอ หรือคนที่รับงานวิดีโอคอนเทนต์ มิวสิควิดีโอ หรืองานมงคลต่าง ๆ
[su_youtube url=”https://www.youtube.com/embed/bo0F_sJLD9M” width=”900″]จุดเด่นของ DJI RS3 คือเรื่องของน้ำหนักที่เบา รับน้ำหนักได้เยอะ เป็นรุ่นเริ่มต้นที่ถูกพัฒนาความสามารถให้มากขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ที่กว้างกว่ารุ่นก่อนพอสมควร
พรีวิว DJI RS3 Gimbal Stabilizer รุ่นล่าสุดสำหรับคนเริ่มต้นเก่งกว่าเดิม ดีกว่าเดิมเยอะ
สเปคเด่นของ DJI RS3
- Gimbal Stabilizer 3 แกน สามารถกันสั่นได้นิ่ง และรับน้ำหนักอุปกรณ์ได้สูงสุด 3 กิโลกรัม
- ระบบ Auto Lock สามารถที่จะล็อคแกนทั้ง 3 แกนได้อัตโนมัติ ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและการทำงาน
- บอดี้เป็น Aluminium น้ำหนักเบาเพียง 1.3 กิโลกรัม พกพาสะดวก คล่องตัวสำหรับการทำงาน
- มีระบบส่งสัญญาณภาพทั้งแบบ Ronin Image Transmission สำหรับส่งสัญญาณภาพไร้สาย
- มีปุ่มปรับโหมดการทำงานแยก สั่งงานได้ง่าย ทำงานได้สะดวก
- รองรับการสั่งงานผ่านหน้าจอ Touchscreen ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
- สั่งงานได้ผ่าน Application บน Smartphone ทั้ง iOS และ Android
- สามารถใช้ DJI RS3 สั่งงานกล้องได้โดยตรง
- แบตเตอรี่ใช้ได้ต่อเนื่อง 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และสามารถที่จะชาร์จเร็ว 0-100 ได้ใน 2.5 ชั่วโมง
Gimbal Stabilizer 3 แกน สามารถกันสั่นได้นิ่ง และรับน้ำหนักอุปกรณ์ได้สูงสุด 3 กิโลกรัม
DJI RS3 เป็นกิมบอลแบบ 3 แกนที่สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 3 กิโลกรัม อีกทั้งยังสามารถกันสั่นได้นิ่ง มีความสามารถในการ Calibration ทั้งแบบปกติและแบบ Smooth ช่วยให้การกันสั่นกิมบอลนั้นทำได้นิ่ง ตอบโจทย์การทำงานด้านวิดีโอ
ระบบ Auto Lock สามารถที่จะล็อคแกนทั้ง 3 แกนได้อัตโนมัติ ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและการทำงาน
ความสามารถ Auto Lock ที่จะสามารถล็อคกิมบอลทั้ง 3 แกนได้อัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้การเคลื่อนที่เวลาทำงาน หรือย้ายกองถ่ายทำได้ง่าย ปกติแล้วเราต้องทำการล็อคทีละแกน ซึ่งก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ด้วยที่เป็น DJI RS3 นั้นสามารถที่จะกดปุ่มปิดเพียงครั้งเดียวเพื่อล็อคในโหมด Standby หรือจะกดค้างเพื่อปิดเครื่องและให้กิมบอลล็อคก็ได้
บอดี้เป็น Aluminium น้ำหนักเบาเพียง 1.3 กิโลกรัม พกพาสะดวก คล่องตัวสำหรับการทำงาน
วัสดุที่ใช้ผลิตตัว DJI RS3 นั้นจะใช้ Aluminum ในการผลิตซึ่งให้ความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา ซึ่งน้ำหนักเบาเพียงแค่ 1.3 กิโลกรัม และก็ยังให้การรับน้ำหนักที่เหมาะสมคือ 3 กิโลกรัมสำหรับการทำงานกับกล้อง Full Frame รวมถึงเลนส์ในกลุ่มมืออาชีพ
มีระบบส่งสัญญาณภาพ Ronin Image Transmission สำหรับส่งสัญญาณภาพไร้สาย
ระบบส่งสัญญาณของ DJI RS3 นั้นจะใช้ Ronin Image Transmission ที่จะทำให้ Gimbal รับภาพจากกล้องและส่งสัญญาณไร้สายไปยังอุปกรณ์อื่นได้
มีปุ่มปรับโหมดการทำงานแยก สั่งงานได้ง่าย ทำงานได้สะดวก
การควบคุมโหมดทำงานของ DJI RS3 นั้นจะเป็นโหมดการทำงานแบบแยกซึ่งจะอยู่ข้างตัว Gimal Stabilizer ทำให้สามารถที่จะสั่งงานได้สะดวก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่ต้องทำการเลือกโหมดผ่านหน้าจอ มีการเข้าหลายขั้นตอน ในรุ่นนี้ปรับปรุงให้สั่งงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
รองรับการสั่งงานผ่านหน้าจอ Touchscreen ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
การตั้งค่าต่าง ๆ ของ Gimbal Stabilizer นั้นสามารถที่จะปรับค่าผ่านหน้าจอ Touchscreen ซึ่งสะดวก และในแต่ละคำสั่งจะมี icon เพื่อสื่อสารว่าแต่ละเมนูทำงานอะไร เข้าใจได้ง่ายแม้ว่าจะเป็นคนทั่วไปก็สามารถที่จะใช้งานได้
สั่งงานได้ผ่าน Application บน Smartphone ทั้ง iOS และ Android
DJI RS3 ยังรองรับการทำงานผ่าน Application ทั้งบน iOS และ Android ซึ่งรองรับทั้งการ update firmware หรือว่าจะเป็นการใช้งานคำสั่งพิเศษต่าง ๆ สามารถควบคุมได้ในนี้ครับ
สามารถใช้ DJI RS3 สั่งงานกล้องได้โดยตรง
DJIRS3 ยังรองรับการสั่งงานและปรับตั้งค่ากล้องผ่านตัว Gimbal ได้ทันที เพียงแค่ต่อสายระหว่างกล้องและ Gimbal ซึ่งในกล้องรุ่นใหม่ ๆ สามารถที่จะควบคุมผ่าน Gimbal ได้เลย ทำให้คนที่ทำงานไม่ต้องเอื้อมมือไปปรับค่าบนตัวกล้อง สะดวกกว่าเดิม ทำงานง่ายขึ้น
แบตเตอรี่ใช้ได้ต่อเนื่อง 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และสามารถที่จะชาร์จเร็ว 0-100 ได้ใน 2.5 ชั่วโมง
แบตเตอรี่ของ DJI RS3 Pro นั้นสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 12 ชั่วโมง และสามารถที่จะชาร์จอย่างรวดเร็วได้ใน 2.5 ชั่วโมงก็เต็ม ช่วยให้การทำงานนั้นต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่ lnwgadget พร้อมให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย
RS 3 Single ราคา 16,000 บาท
RS 3 Combo ราคา 20,900 บาท
RS 3 Pro ราคา 29,500 บาท
RS 3 Pro Combo ราคา 37,500 บาท