DJI OSMO Action Academy 3 : สิ่งที่จะได้รับในการเดินทางเมื่อเราใช้ DJI OSMO Action

DJI OSMO Action Academy 3 : สิ่งที่จะได้รับในการเดินทางเมื่อเราใช้ DJI OSMO Action เรื่องของสเปคกล้องก็อีกส่วนนึง แต่เรื่องของการเดินทางและประสบการณ์ในการใช้งานก็อีกส่วนหนึ่งเหมือนกัน ในวันนี้เราจะมาคุยเรื่องของกล้อง DJI OSMO Action ในการเดินทางท่องเที่ยว ว่าเราจะได้รับอะไรดี ๆ บ้าง เมื่อเราต้องเดินทางแล้วใช้กล้อง DJI OSMO Action ตัวนี้ครับ ซึ่งในเรื่องนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นมิติใหม่ในการใช้งานได้เยอะเลย

DJI OSMO Action Academy 3 : สิ่งที่จะได้รับในการเดินทางเมื่อเราใช้ DJI OSMO Action

1. ตัดปัญหาในการเลือกซื้อ กล้อง เลนส์ อุปกรณ์ และต้นทุน ออกไป ให้เหลือตัวเลือก 1 ตัว ที่จบทุกอย่างได้ด้วย DJI OSMO Action ในเครื่องเดียว

ในการเริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยว ปัญหาที่มักจะเกิดกับคนที่เดินทางถ่ายภาพเลยก็คือ การเลือกซื้อกล้อง อุปกรณ์เสริม เลนส์ กระเป๋า โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนของอุปกรณ์ เราต้องการดีที่สุดในงบที่มีจำกัดที่สุด

จะง่ายกว่าถ้าหากมีตัวเลือกเป็น DJI OSMO Action ซึ่งมามุมทีละมุมแล้ว ให้คุณสมบัติต่าง ๆ ได้ตรงจุดของนักเดินทางที่สุด

• น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
• ความละเอียดวีดีโอสูง
• อุปกรณ์เสริมมีให้ใช้และขนาดเล็ก
• มีระบบกันสั่นที่นิ่งที่สุด
• ราคาอุปกรณ์ 12,000 บาท และใช้งานแบบจบได้จริง

หากวิเคราะห์ถึงปัจจัยเหล่านี้ที่พูดถึงแล้ว DJI OSMO Action จะเป็นกล้องที่ตอบโจทย์นักเดินทางที่สุด แล้วก็ให้ต้นทุนที่คุ้มที่สุดด้วย

2. ระยะเลนส์ คุณภาพวีดีโอ เหมือนกล้องระดับโปรและมีขนาดที่เล็กกว่า

ระยะเลนส์ในกล้อง DJI OSMO Action ให้มุมมองรับภาพที่กว้างมาก และด้วยที่ออกแบบจาก Comment ของผู้ใช้กล้องในตลาดที่ผ่านมาหลายปี จะเห็นว่าปัจจุบันผู้ใช้ไม่ต้องการเลนส์มุมกว้างที่ขอบโค้งมากนัก ดังนั้น DJI เลยใส่เลนส์มุมกว้างที่ลดปัญหาเรื่องขอบโค้งมาให้เลย (ซึ่งทำได้ยากมาก แล้วก็เลนส์ที่ทำได้ขนาดนี้คือมักมีราคาสูง)

แต่ด้วย DJI เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ในตลาดนี้ รู้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดีก็เลยทำให้เลนส์สามารถรับมุมได้กว้าง ขอบโค้งน้อย และราคาไม่แพงครับ

3. เดินทางได้คล่องตัวกว่า พร้อมถ่ายวีดีโอทุกเวลา และตัวกล้องที่มีขนาดเล็กช่วยให้ง่ายต่อการถ่ายวีดีโอด้วย

ความคล่องตัวเป็นอะไรที่หาได้ยากมากในการเดินทาง ยิ่งประเมินสัมภาระ เสื้อผ้า อุปกรณ์ถ่ายภาพอื่น ๆ แล้วยังมีกล้องวีดีโอด้วย ไม่ใช่โจทย์เล่น ๆ เพราะงั้นถ้าย้อนดูกล้อง Action Camera ที่ปีที่ผ่านมาพยายามทำตรงนี้ได้ดีคือ “ความคล่องตัวของผู้ใช้”

ถ้าหากวิเคราะห์ถึง DJI OSMO Action แล้ว ได้ให้ความคล่องตัวที่แทบจะดีที่สุดอยู่ตอนนี้ (ก็แน่ล่ะเป็นของใหม่ที่สุดในตลาดด้วย) กล้อง DJI OSMO Action ออกแบบปุ่มในการกดถ่ายวีดีโอไว้ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด แล้วก็กดได้ง่ายที่สุด รวมถึงสามารถที่จะถ่ายวีดีโอได้ง่ายที่สุดด้วย แม้ว่าปิดเครื่องอยู่ กดปุ๊บ ถ่ายปั๊บ ทำให้ความคล่องตัวในภาพรวมสูงมาก และอุปกรณ์มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เรียกได้ว่าดีที่สุดก็ดูจะไม่ได้อวยเกินไปนะ เพราะเขาทำได้จริง ๆ

4. ตัวกล้องไม่ทำลายบรรยากาศในการเที่ยวเมื่อใช้งาน และด้วยการออกแบบดูเรียบง่าย ไม่ทำให้สะดุดตาคนรอบข้าง

ในเรื่องนี้ถ้าใครไม่เคยถ่ายวีดีโอจริงจัง จะไม่เข้าใจเรื่องนี้ เดี๋ยวผมอธิบายเป็นฉาก ๆ ให้เข้าใจกัน ในการถ่ายวีดีโอบรรยากาศจริง ๆ นั้น กล้องที่ใหญ่แล้วดูจริงจัง มันจะทำให้บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยน อันนี้คือเรื่องจริงนะ โดยเฉพาะเราอยากได้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาตินี่ เรื่องอุปกรณ์ขนาดเล็กสำคัญมาก

ดังนั้น DJI OSMO Action ก็เลยเป็นกล้องที่ไม่ดูสะดุดตาอะไรมาก แต่ยัดประสิทธิภาพระดับมืออาชีพมาให้ใช้ ทำให้การทำงานของเราเรียบง่าย แต่หวังผลได้สูง แล้วก็ไม่ทำลายบรรยากาศคนรอบข้างด้วย

5. เราสามารถถ่ายวีดีโอแบบ TimeLapse และ HyperLapse ได้เลย แม้ว่าเราจะไม่ใช่ช่างภาพระดับมืออาชีพก็ตาม

DJI OSMO Action จะมีโหมดในการถ่ายวีดีโอแบบเร่งเวลาอยู่ เรียกว่า Timelapse และกำลังจะมี Hyperlapse เร็ว ๆ นี้ จะเป็นโหมดที่ใช้สร้างความน่าสนใจให้กับวีดีโอเรา สามารถเก็บช่วงเวลาที่นาน ๆ ให้จบในช่วงเวลาสั้น ๆ อีกทั้งยังทำให้คนดูเห็นการเปลี่ยนแปลงของช่วงเวลานั้นในสถานที่ที่เราไปเที่ยวอีกด้วย

และโหมด Timelapse, Hyperlapse สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว มือใหม่หรือคนระดับเริ่มต้นก็สามารถที่จะใช้งานได้

6. ตัวแบตเตอรี่สำรองเปลี่ยนได้รวดเร็ว ใช้งานง่าย สามารถจัดการได้สะดวกเมื่อต้องเดินทาง

ตัวแบตเตอรี่ของ DJI OSMO Action นั้นเป็นแบตเตอรี่ขนาดเล็ก ซึ่งจะมีขอบยางซีลสำหรับกันน้ำเวลาดำน้ำด้วย เวลาใช้งานก็สามารถซื้อสำรองใช้ทีละหลาย ๆ ก้อนได้ ทำให้ไม่ต้องไปคิดโปรเซสใช้ไปชาร์จไป ซึ่งนั่นไม่สะดวกมาก ๆ

แต่พอใช้เป็นก้อนแยก ๆ แบบนี้ทำให้เราประเมินการทำงานและการจัดการพลังงานได้ง่ายกว่า สามารถที่จะใช้งานแบบจัดเต็มได้เลย

• 

• 

7. ทำสีแนว Cinematic ได้สะดวกเพราะมี Profile สี Cinelike-D สำหรับการถ่ายวีดีโอแล้วมาแต่งโทนต่อ ทำให้เล่าอารมณ์ของการเดินทางได้ง่ายขึ้น

ในการถ่ายวีดีโอสำหรับบางคนที่ต้องการทำสีสันให้เหมือนแบบวีดีโอที่เมืองนอกทำกัน ที่เราเรียกรวม ๆ ว่าการ Grading สี ซึ่งถ้าไม่ใช่ Profile สีที่ทำมาเฉพาะ หรือโปรไฟล์สีที่มีรายละเอียดที่เหมาะสมกับการ Grading ก็จะไม่สามารถเอามาแต่งสีสันได้ดีพอ

ดังนั้น Cinelike-D Profile จึงเป็นบทบาทสำคัญมากสำหรับ DJI OSMO Action และกล้องวีดีโอในปัจจุบันครับ

สำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของ DJI OSMO Action สามารถซื้อได้ที่ lnwgadget ครับ ในราคา 12,000 บาทเท่านั้นครับ และสินค้าประกันศูนย์ประเทศไทยด้วยนะ