DJI Mavic Mini vs DJI Spark โดรนรุ่นเล็ก รุ่นไหนดีกว่า รุ่นไหนคุ้มกับเรามากที่สุด น่าใช้ที่สุด

November 5, 2019
Brand, DJI, Product

DJI Mavic Mini vs DJI Spark เปรียบเทียบโดรนสเปคเก่ง รุ่นเล็กสองรุ่น ระหว่าง DJI Mavic Mini เป็นโดรนที่เพิ่งออกมาล่าสุด และมีการถามเข้ามาอย่างมากเลย เทียบกับรุ่นก่อนหน้าซึ่งเป็นโดรนรุ่นเล็กเหมือนกันคือ DJI Mavic Spark เดี๋ยววันนี้เราจะไปดูความสามารถของโดรนทั้งสองรุ่นนี้กันครับว่ารุ่นไหนสามารถที่จะใช้งานได้เหมาะสมที่สุด สนุกที่สุด

DJI Mavic Mini vs DJI Spark โดรนรุ่นเล็ก รุ่นไหนดีกว่า รุ่นไหนคุ้มกับเรามากที่สุด น่าใช้ที่สุด

1. DJI Mavic Mini เบากว่า DJI Spark เป็นรุ่นเบาในเบาอีกที เบามาก

มาดูเรื่องน้ำหนักกันก่อนเพราะสำคัญมาก DJI Mavic Mini เป็นโดรนขนาดเล็กรุ่นล่าสุดที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ DJI Mavic Mini มีขนาดที่เบากว่า DJI Spark ที่เป็นโดรนรุ่นเบาเหมือนกันแต่เป็นรุ่นก่อนหน้า โดนรุ่นน้องอัพเกรดมาทำได้ดีกว่าในเรื่องนำ้หนักไปซะแล้ว

ซึ่งเปรียบเทียบกันก็คือ DJI Mavic Mini จะมีน้ำหนักแค่ 249 กรัม ส่วน DJI Spark จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 300 กรัม

2. DJI Mavic Mini มีขนาดที่เล็กกว่า DJI Spark เป็นรุ่นเล็กที่พัฒนาให้เล็กลงกว่าเดิมด้วย

ต้องยอม DJI ที่สามารถออกแบบโดรนขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่เล็กกว่าเดิมได้อีก ซึ่ง DJI Mavic Mini นั้นจะมีขนาดเล็กกว่า DJI Spark ซึ่งเป็นโดรนขนาดเล็กด้วยกัน แต่รุ่นใหม่ก็ทำได้เล็กกว่าอีก ทำให้เวลาใช้งาน การจัดเก็บ การพกพา เป็นเรื่องที่สนุกมาก เพราะเล็กก็คล่องตัวกว่า ไม่กินพื้นที่กระเป๋า

3. DJI Spark บินเร็วกว่า DJI Mavic Mini เล็กน้อย

จุดเด่นของ DJI Spark ก็คือสามารถที่จะบินเร็วกว่า DJI Mavic Mini อยู่นิดหน่อย ก็คือ DJI Spark จะบินได้เร็ว 50Km/Hr. ส่วน DJI Mavic Mini จะบินได้เร็ว 46.6 Km/Hr. ถ้าในการใช้งานจริงแทบไม่ต่างกันเลย เพราะเราไม่ได้เอาโดรนไปบินแข่งกัน

4. DJI Mavic Mini บินได้นานกว่า DJI Spark 2 เท่า

สิ่งที่ต่างกันแบบสุด ๆ ก็คือ DJI Mavic Mini นั้นสามารถที่จะบินได้นานกว่า DJI Spark ถึง 2 เท่าเลย เพราะ DJI Mavic Mini จะบินได้ 30 นาที ต่อแบตเตอรี่ 1 ก้อน แต่ DJI Spark จะใช้งานได้แค่ 16 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาในรุ่นใหม่ที่ไปไกลมาก ทำให้เราสามารถที่จะบินได้นาน ถ่ายวิดีโอได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่หมดเร็ว

5. DJI Mavic Mini มีระบบกันสั่นกล้องที่ดีกว่า DJI Spark

อีกจุดนึงที่หลายคนยังไม่รู้คือ DJI Mavic Mini จะมาพร้อมกับระบบกันสั่นกล้องแบบ 3 แกน ซึ่งเป็นระบบเดียวกับรุ่นพี่เลย แต่ DJI Spark นั้นจะเป็นระบบกันสั่นแค่ 2 แกนเท่านั้น ทำให้คุณภาพในการกันสั่นของ DJI Mavic Mini ดีกว่าแบบไม่ต้องเทียบให้เหนื่อยเลย

ซึ่งระบบกันสั่นที่ดีขึ้นนี้จะช่วยให้เราถ่ายวิดีโอได้นิ่งขึ้น และถ่ายภาพนิ่งได้คมชัดขึ้นด้วย ภาพไม่เบลอนั่นเองครับ

6. DJI Mavic Mini มีขนาดเซ็นเซอร์เท่ากันกับ DJI Spark

คราวนี้เรามาดูด้านขนาดเซ็นเซอร์กันบ้าง ในส่วนของ Sensor Size ใน DJI Mavic Mini และ DJI Spark นั้นจะมีขนาดท่ีเท่ากันคือ 1/2.3 นิ้ว และมีความละเอียดภาพนิ่งที่เท่ากันคือ 12 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถที่จะถ่ายภาพนิ่งได้สวยเหมือนกันนั่นเอง

7. DJI Mavic Mini ถ่ายวิดีโอได้ไฟล์สวยกว่า DJI Spark

มาดูทางด้านไฟล์วิดีโอกันบ้าง DJI Mavic Mini นั้นจะสามารถถ่ายวิดีโอได้ไฟล์ที่สวยกว่า DJI Spark เพราะ DJI Mavic Mini นั้นจะได้คุณภาพไฟล์ละเอียด 2.7K ส่วน DJI Spark ถ่ายวิดีโอได้ละเอียดสุดแค่ Full HD เท่านั้น ซึ่งถ้าใครอยากได้โดรนขนาดเล็ก ไฟล์สวย ยังไงก็ต้องเป็น DJI Mavic Mini แล้วล่ะ

8. DJI Mavic Mini มีโหมดถ่ายวิดีโอเหนือกว่า DJI Spark

ในโหมดถ่ายวิดีโอสำเร็จรูปนั้น DJI Mavic Mini ก็แทบจะเหมือนกับ DJI Spark เลย แต่สิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในยุคหลังคือความสามารถในการถ่ายวิดีโอแบบ Hyperlapse ซึ่งเป็นวิดีโอ Timelapse ที่โดรนสามารถเคลื่อนที่ไปด้วยได้ ทำได้ยากมากถ้าคุณไม่ใช่มือโปร เพราะต้องมีพื้นฐานเยอะ แต่ด้วยที่มีโหมดสำเร็จใน DJI Mavic Mini กดปุ๊บ ได้ Hyperlapse ปั๊บ ใครก็ชอบ

9. DJI Mavic Mini ราคาเริ่มต้นง่ายกว่า DJI Spark หลายพันเลย

สุดท้ายคือเรื่องของราคาเริ่มต้นใน DJI Mavic Mini นั้นราคาเปิดคุ้มค่ากว่า DJI Spark อยู่หลายพันเลย ซึ่ง DJI Mavic Mini เริ่มต้นที่ 12,000 บาท ครบจบในชุดเดียว แต่ถ้าใครอยากไปชุดจัดเต็มก็ 15,000 บาท เท่านั้น ส่วน DJI Spark ราคาเริ่มต้นก็ 15,490 บาท แล้ว ยังแพงกว่า DJI Mavic Mini ชุด Combo อีกนะ