เปรียบเทียบ DJI Mavic Air 2s vs DJI Mavic Air 2 มีอะไรอัพเกรดบ้าง และคุ้มไหมที่จะซื้อ?

April 20, 2021
DJI

เปรียบเทียบ DJI Mavic Air 2s vs DJI Mavic Air 2 มีอะไรอัพเกรดบ้าง และคุ้มไหมที่จะซื้อ? DJI Mavic Air 2S เป็นโดรนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นโดรนตัวเล็กที่ใส่สเปคมาแบบไม่กั๊กในซีรีย์ Air ของ DJI ทั้งขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ ให้ภาพสวยงามสมจริง คมชัดทุกรายละเอียด และบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 5.4K ซึ่งมีการเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานใหม่มาให้อีกด้วย

เปรียบเทียบความแตกต่างของโดรนรุ่นใหม่ DJI Mavic Air 2s vs DJI Mavic Air 2 มีอะไรอัพเกรดบ้าง?

รูปร่างและดีไซน์แตกต่างกันไม่มากนัก

รูปร่างและลักษณะภาพนอกไม่ค่อยแตกต่างกันมาก DJI Mavic Air 2s ยังคงมีลักษณะโครงสร้างที่ไม่ต่างจากรุ่น Mavic Air 2 มากเท่าไหร่ น้ำหนักของ Mavic Air 2 เบาเพียงแค่ 570 กรัมและ DJI Mavic Air 2s น้ำหนักเพียงแค่ 595 กรัม

มีการเติมแต่งบางส่วนเพียงเล็กน้อยแต่ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือส่วนด้านหน้าที่มีช่องเซ็นเซอร์ด้านบนเพิ่มขึ้น เพื่อให้หลีกเสี่ยงสิ่งกีดขวางได้ดีขึ้น ด้านหน้าของโดรน DJI Mavic Air 2s จึงเห็นช่องเซ็นเซอร์ 4 ช่อง ส่วน DJI Mavic Air 2 จะมีเพียงสองช่อง และส่วนของกล้องที่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นตามขนาดของเซ็นเซอร์ ซึ่งเมื่อดูเพียงภาพนอก ก็พอจะสังเกตได้ว่าคือรุ่น DJI Mavic Air 2s หรือ DJI Mavic Air 2

ขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น DJI Mavic Air 2s มีเซ็นเซอร์ใหญ่ 1 นิ้ว ขณะที่ DJIMavic Air 2 มีเซ็นเซอร์ 1/2 นิ้วให้คุณภาพของไฟล์ภาพนิ่งและวิดีโอได้แบบรุ่นใหญ่

DJI Mavic Air 2s มีเซ็นเซอร์ใหญ่ 1 นิ้วแบบรุ่นโปรทำให้ได้คุณภาพของไฟล์ภาพนิ่งและวิดีโอดีขึ้นเหมือนรุ่นใหญ่ความละเอียดภาพนิ่ง 20 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพเป็น RAW File ให้ Dynamic Range 12.6 Stop แบบกล้องถ่ายภาพมืออาชีพ

ส่วน Mavic Air 2 มีเซ็นเซอร์ 1/2 นิ้วให้ภาพนิ่งความละเอียดภาพสูงถึง 48 ล้านพิกเซลรองรับการถ่ายแบบ HDR ให้ภาพสวย ซูมภาพก็ยังชัด ซึ่งขนาดของเซ็นเซอร์ของ DJI Mavic Air 2s ทำให้ทำงานภาพได้อเนกประสงค์และให้ความสวยงามและรายละเอียดสีสันและแสงได้ดีกว่า

ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด DJI Mavic Air 2s ให้ความละเอียดที่ 5.4K/30fps และ 4K/60fps ส่วน Mavic Air 2 ให้ความละเอียดสูงสุดที่ 4K/60fps และ 2.7K/60fps

DJI Mavic Air 2s ให้งานวิดีโอระดับมืออาชีพแบบกล้องโปร รองรับการถ่ายวิดีโอสำหรับงานมืออาชีพคุณภาพไฟล์วิดีโอสูง ให้บิตเรทที่ 150Mbps แบบกล้องมืออาชีพ 10bit Dlog-M Color Profile ใช้งาน Grading สีได้สบาย

ส่วน Mavic Air 2 ให้ความละเอียดสูงสุดที่ 4K/60fps และ 2.7K/60fps ซึ่งจะเห็นว่าคุณภาพของวิดีโอ DJI Mavic Air 2s ค่อนข้างที่จะเหนือกว่า โดยทั้งคู่มีโหมดถ่ายภาพแบบ HDR, Panorama, Wide Angle, 180 Degree, Sphere พร้อมให้ใช้งานแบบง่าย ๆ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวย และมีความหลากหลาย

ฟีเจอร์การถ่ายภาพที่อัพเกรดให้ทำงานง่ายขึ้นด้วย MasterShots บน DJI Mavic Air 2s ซึ่ง DJI Mavic Air 2 ยังไม่มีความสามารถด้านนี้

DJI Mavic Air 2S รองรับการถ่ายภาพแบบรวดเร็วและชาญฉลาดด้วย MasterShots ซึ่งเป็นฟีเจอร์อัพเกรดมาในรุ่นนี้แต่ก็ยังคงรองรับการถ่ายภาพแบบ QuickShots เหมือนเดิมที่มีอยู่ในรุ่นก่อน ซึ่ง DJI Mavic Air 2 ยังคงมีเพียงฟีเจอร์ QuickShots เท่านั้น

QuickShots จะนำเสนอเพียงเส้นทางบินทีละเส้นทางแต่ MasterShots จะรวมการบินทั้ง 10-15 เส้นทางรวมเข้าด้วยกันทั้งยังสร้างคลิปวิดีโออัตโนมัติแก้ไขใส่เพลงใส่ มีการเปลี่ยนซีนให้อย่างราบรื่น โดยมีเทมเพลตให้เลือกใหงานได้มากกว่า 20 แบบจึงสร้างความสนุกและความตื่นเต้นให้งานวิดีโอได้อย่างน่าประทับใจ

ระบบความปลอดภัยและการหลบหลีกสิ่งกีดขวาง DJI Mavic Air 2s มีระบบ APAS 4.0 ซึ่งพัฒนาขึ้นมาจาก APAS 3.0 ที่มีบน Mavic Air 2

APAS 4.0 เป็นระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่พัฒนาขึ้นมาใหม่โดยมีเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางทั้งด้านบน (Upward) ด้านล่าง (downward) ด้านหน้า (forward) และด้านหลัง (backward) ซึ่งประเมินได้ล่วงหน้าอย่างแม่นยำ ในขณะที่ระบบเดิมจะตรวจจับได้ 3 ทิศทางคือ ด้านหน้า ด้านล่าง และด้านหลังเท่านั้น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้บินได้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้นักบินไม่ต้องกังวล สามารถสร้างสรรค์และบินได้อย่างอิสระ

DJI Mavic Air 2s มีระบบ OcuSync 3.0 ซึ่งส่งสัญญาณภาพความละเอียด 1080p ได้ไกลถึง 12 กิโลเมตรซึ่งไกลกว่า OcuSync 2.0 ที่มีบน Mavic Air 2 ที่ส่งสัญญาณได้ไกล 10 กิโลเมตร

ระบบการส่งสัญญาณที่ไกลมากกว่าเดิทำให้โดรนบินได้ไกลมากกว่าเดิม ถ่ายภาพและวิดีโอได้รัศมีที่กว้างกว่าเดิม ด้วยเสาสัญญาณ 4 ตัวที่ให้ความแรงของสัญญาณที่มากขึ้น ระบบสัญญาณและความไวต่อสัญญาณมากขึ้น สัญญาณไม่หายระหว่างบิน ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการบินสูงขึ้นถ่ายภาพและวิดีโอได้มากขึ้น