7 ข้อเปรียบเทียบ DJI MINI SE VS DJI MINI 2 ต่างกันอย่างไรและมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง โดรน DJI mini SE เป็นโดรนน้องใหม่ที่อยู่ในกลุ่มของโดรนขนาดเล็ก ซึ่งในรุ่น SE จะเป็นรุ่นที่มีความคล้ายคลึงกันรุ่นพี่อย่าง DJI mini 2 ทั้งเรื่องรูปร่าง ดีไซน์ คุณสมบัติ เพียงแต่มีการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้มีทางเลือกในการใช้โดรนที่ตัวเล็กที่ตอบโจทย์การทำงานและราคาเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น เรามาดูกันครับว่า DJI mini SE vs DJI mini 2 มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง
[su_youtube url=”https://www.youtube.com/embed/HsFrncK6y4w” width=”900″]7 ความเหมือนและแตกต่างของโดรน DJI mini SE vs DJI mini 2 ต่างกันอย่างไรและมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
1. เล็ก เบา พกพาง่าย ตอบโจทย์การทำงานที่คล่องตัว
DJI mini SE และ DJI mini 2 ต่างก็มีคุณสมบัติในด้านนี้ที่เหมือนกันครับ โดยทั้งคู่มีการออกแบบและดีไซน์บอดี้ของโดรนที่คล้ายกัน เล็กเท่าฝ่ามือ มีน้ำหนักเบาเท่ามือถือเหมือนกัน (249 กรัม)
จึงตอบโจทย์การทำงานของ Vlogger ท่องเที่ยว ที่เน้นการทำงานที่คล่องตัว พกพาโดรนทำงานได้อย่างง่ายดาย ลดภาระเรื่องน้ำหนักสัมภาระ เดินทางสะดวก ทั้งการใช้งานที่ไม่เป็นที่สะดุดตาหรือรบกวนผู้คนรอบข้าง
สรุป DJI mini SE และ DJI mini 2 เล็ก เบา พกพาง่าย ตอบโจทย์การทำงานที่คล่องตัวเหมือนกัน
2. ภาพนิ่งคมชัดสวยใส เก็บรายละเอียดสีสันและแสงได้ครบถ้วน
เซ็นเซอร์ 1/2.3” CMOS ให้ความละเอียดภาพ 12 ล้านพิกเซล เป็นคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพที่มีทั้งใน DJI mini SE และ DJI mini 2 ถ่ายภาพสวยงามคมชัด สีสันสมจริง โดย DJI mini SE จะรองรับการบันทึกภาพในรูบแบบไฟล์ JPEG แต่สำหรับ DJI mini 2 จะรองรับทั้งไฟล์ JPEG และ RAW จึงสามารถนำภาพที่ได้ ตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อให้ภาพสวยงามและโดดเด่นมากขึ้น ทั้งยังรองรับการถ่ายภาพพาโนรามาและ 360 องศาด้วยครับ
สรุป DJI mini SE และ DJI mini 2 เซ็นเซอร์ 1/2.3” CMOS ให้ความละเอียดภาพ 12 ล้านพิกเซล แต่ DJI mini SE รองรับเฉพาะ JPEG ส่วน DJI mini 2 รองรับทั้ง JPEG และ RAW
3. บันทึกภาพเก็บความประทับใจได้ยาวนานไม่พลาดวินาทีสำคัญ
เพื่อไม่ให้พลาดวินาทีสำคัญ โดรน DJI mini SE และ DJI mini 2 สามารถบินได้นานเพื่อเก็ฐภาพถ่ายและวิดีโอได้อย่างเต็มอิ่ม ยาวนานถึงครึ่งชั่วโมง ซึ่ง DJI mini 2 จะบินได้นานกว่า DJI mini SE อยู่เล็กน้อยต่างกันเพียง 1 นาที โดย DJI mini SE บินได้นาน 30 นาที ส่วน DJI mini 2 บินนาน 31 นาที
สรุป DJI mini SE บินได้นาน 30 นาที ส่วน DJI mini 2 บินนาน 31 นาที
4. ให้ภาพและวิดีโอมุมสูงที่โดดเด่นและสวยงามสำหรับโพสลงโซเชียลทำชาแนลได้
ภาพและวิดีโอมุมสูง เป็นมุมที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนัก ดังนั้นภาพและวิดีโอที่ได้จากโดรน จะสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ดูตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ชม ซึ่งทั้ง DJI mini SE และ DJI mini 2 ให้วิดีโอคมชัดทั้งรายละเอียดของแสงและสีสัน ทั้งยังกันสั่น 3 แกน ภาพและวิดีโอมีคุณภาพทั้งชัดเจน และนิ่งไม่สั่นไหว
วิดีโอของ DJI mini 2 บันทึกที่ความละเอียดสูงสุด 4K จึงให้รายละเอียดที่คมชัด สีสันชัดเจน ทั้งยังสามารถซูมภาพเข้าออก ในระหว่างการถ่ายทำงานวิดีโอได้สูงสุดถึง 4 เท่า ส่วน DJI mini SE ให้การบันทึกผลที่ความละเอียดของวิดีโอ 2.7 K ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอและคมชัด เหมาะสำหรับการบันทึกวิดีโอโพสลงโซเชียล และทำงานวิดีโอลง YouTube ได้
สรุป กันสั่น 3 แกนทั้งคู่ วิดีโอของ DJI mini 2 บันทึกที่ความละเอียดสูงสุด 4K และซูมสูงสุดถึง 4 เท่า ส่วน DJI mini SE บันทึกผลที่ความละเอียดวิดีโอ 2.7 K
5. ควบคุมการทำงานง่ายดาย บินสบาย และปลอดภัย
โดรนของ DJI ทั้ง DJI mini SE และ DJI mini 2 มีคุณสมบัติในด้านความปลอดถัยในการบินสูง ทั้งระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง มีระบบเตือนถ้าบินสูงเกินไป หรือไกลเกินระยะ และคำสั่ง Return home เพื่อเรียกโดรนกลับมาที่จุดปล่อยตัวและการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน DJI fly app ที่สะดวก เข้าใจง่าย มือใหม่ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถบินโดรนได้
สรุป DJI mini SE และ DJI mini 2 ควบคุมการบินง่าย และมีความปลอดภัยในการบิน
6. เก็บภาพได้ไกล ลัดเลาะตามจุดที่เข้าถึงยากได้ง่าย บินบนเขา หรือริมทะเลก็สบาย
ทั้ง DJI mini SE และ DJI mini 2 เป็นโดรนที่มีขาดเล็ก ที่สามารถบินลัดเลาะไปตามจุดที่อาจจะเข้าถึงยาก หรือจุดที่ไม่สามารถเดินเท้าเพื่อเข้าสำรวจได้ ซึ่งโดรนจะทำหน้าที่ในการเป็นดวงตา ซึ่งผู็ใช้ก็จะเห็นแบบที่โดรนเห็น จึงทำให้ได้ภาพหรือวิดีโอในบางจุดที่ไม่สามารถเข้าถึงได้
โดยทั้ง DJI mini SE และ DJI mini 2 จะถูกควบคุมการบินผ่านระบบไร้สายซึ่งระยะสัญญาณของ DJI mini SE ไกลสุด 4 เมตร ส่วน ระยะสัญญาณของ DJI mini 2 ไปได้ไกลสุดถึง 10 เมตร บินได้ไกลจึงสำรวจได้กว้างเห็นอะไรได้มากขึ้น ทั้งยังสามารถทนต่อแรงลมระดับ 5 ( ความเร็ว 29-38 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) จึงสามารถถ่ายภาพริมทะเลและบนภูเขาที่มีลมปะทะได้
สรุป ระยะสัญญาณของ DJI mini SE ไกล 4 เมตร ส่วนระยะสัญญาณของ DJI mini 2 ไกลสุด 10 เมตร ทนแรงลมได้มากกว่า
7. รูปแบบการบินอัตโนมัติที่หลากหลายเพื่องานวิดีโอที่ตื่นเต้น สะดุดตา ทำงานสนุก ประทับใจผู้ชม
DJI mini SE และ DJI mini 2 นอกจากจะควบคุมกรบินได้ง่าย สร้างสรรค์รูปแบบการบินได้อย่างที่ต้องการแล้ว มีรูปแบบการบินอัตโนมัติให้เลือกใช้ เพื่อช่วยให้การบินเป็นเรื่องที่สนุก และได้วิดีโอที่ได้มุมมองสวยงามแปลกตา และน่าสนใจ ด้าน DJI mini 2 จะมี 5 รูปแบบคือ Dronie, Rocket, Circle, Helix และ Boomerang และโหมดรูปแบบการบินอัตโนมัติที่มีอยู่บน DJI mini SE จะมี 4 รูปแบบคือ Dronie, Rocket, Circle และ Helix