7 เทคนิคการใช้ DJI Ronin SC สำหรับ YouTuber มือใหม่ที่ต้องการถ่ายวิดีโอแบบจริงจัง

August 8, 2019
Tips & Tricks

7 เทคนิคการใช้ DJI Ronin SC สำหรับ YouTuber มือใหม่ที่ต้องการถ่ายวิดีโอแบบจริงจัง เป็นการแนะนำในการใช้ DJI Ronin SC สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ที่อยากจะจริงจังด้วย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการเตรียมตัว การคิด และทำทุกอย่างให้พร้อมสำหรับการถ่ายวิดีโอร่วมกับการใช้ Gimbal DJI Ronin SC ครับ

7 เทคนิคการใช้ DJI Ronin SC สำหรับ YouTuber มือใหม่ที่ต้องการถ่ายวิดีโอแบบจริงจัง

1. ทดสอบการรับน้ำหนักกล้องและเลนส์ทุกตัวที่เราจะใช้ก่อนวันถ่ายงานจริง

ก่อนที่เราจะทำการเริ่มถ่ายวิดีโอ ที่จริงก็ควรทดสอบการ Balance และเซ็ตกล้องอุปกรณ์ของจริงที่เราจะใช้วันนั้นก่อนเริ่มถ่ายสักวันนึง เหตุผลเพราะเราต้องเตรียมความพร้อม ทดสอบการบาลานซ์น้ำหนัก สังเกตข้อจำกัดของอุปกรณ์

บางครั้งเราอาจจะโหลดกล้องและอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเยอะเกินไปก็ได้ การที่เราทดสอบและเตรียมตัวก่อนทำให้เราไม่ต้องไปเจอปัญหาที่ไม่อาจคาดคิดหน้างานได้

2. ควรใช้ Wireless Mic ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา หรือ Shotgun Mic น้ำหนักเบาเวลาที่ต้องบันทึกเสียงตอนเดินทาง

ในตอนที่เป็นมือใหม่หลายคนอาจจะอยากได้อุปกรณ์บันทึกเสียงที่ดีที่สุดที่เราจะหาได้ แต่แนะนำว่าควรใช้ Wireless Microphone ที่น้ำหนักเบาและ Setup ง่ายที่สุดจะดีกว่า หรือว่าจะเป็น Mic Shotgun ขนาดเล็กและเบาแทนก็ได้ เพราะว่าจะช่วยให้เรา Balance กล้อง ไมค์ กับตัว Gimbal ได้สะดวก และลดระยะเวลาในการติดตั้งไปครับ

3.ฝึกใช้ระยะ Selfie ของเลนส์เราให้คล่อง และฝึกการทำงานร่วมกับระบบ Auto Focus/Manual Focus ให้เรียบร้อย

สำหรับบางคนที่ต้องถ่ายมุม Selfie Vlog ซึ่งต้องหันหน้ากล้องเข้าหาตัวเอง สำหรับบางคนกล้องไม่ได้มีหน้าจอพับมาข้างหน้า หรืออาจจะเพราะติดไมค์อยู่แล้วพับจอไม่ได้ แนะนำว่าให้ทดสอบการยก Gimbal เข้าหาตัวเพื่อถ่าย Selfie Vlog คอยสังเกตว่าระยะห่างระหว่าง Gimbal และตัวเราควรมีประมาณไหน ซึ่งจะสัมพันธ์กันกับระยะเลนส์ที่เราใช้นั่นแหละ

นอกจากนี้ควรสังเกตลักษณะของระบบโฟกัสกล้องเราด้วย กล้องบางคนโฟกัสเร็วมาก พอเราขยับหรือพูดนิดหน่อยโฟกัสก็จะเริ่มวิ่งบ่อย ๆ อาจจะทำให้ Footage เราได้ไม่ตรงตามความต้องการก็ได้ครับ การทดสอบแบบนี้จะช่วยให้เราควบคุมอุปกรณ์ได้ตามต้องการมากขึ้น

4. ควรฝึกใช้โหมด Timelapse และ Motion Lapse ให้ชำนาญ

ใครที่อยากได้ Footage ที่สวย ๆ และน่าสนใจแนะนำว่าให้ฝึกเรื่องของ Timelapse และ Motion Lapse เอาไว้ให้เรียบร้อย เพราะสองสิ่งนี้จะช่วยให้เราได้วิดีโอที่สวยงามแน่นอน ความยากของโหมดนี้คือการเลือกมุมไว้ล่วงหน้า การเตรียมตัวให้พร้อม และระยะเวลาที่ใช้ในการถ่าย Timelapse นั้นเรียกได้ว่ากินเวลาพอสมควรนะ เพราะงั้นซ้อมไว้ก่อนที่จะเริ่มถ่ายจริงจะดีที่สุดครับ

5. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนการถ่ายงานจริง

การทดสอบประสิทธิภาพของตัวอุปกรณ์ การทำงานทุกอย่างให้พร้อมก่อนวันจริง รวมไปถึงเรื่องของแบตเตอรี่ควรชาร์จให้พร้อมก่อนวันเริ่มงานเพื่อไม่ให้พลาดเจอปัญหาหน้างานครับ เพราะบางครั้งปัญหาเล็ก ๆ อาจจะทำให้เราพลาดการถ่ายวิดีโอที่สำคัญไปก็ได้

6. ทำการบ้านเรื่องมุมมองสำหรับการเล่าเรื่องล่วงหน้าไว้ทุกครั้งด้วย

Final Image เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอ เราควรเตรียมมุมมองทุกอย่างไว้ในหัวหรือจดลงสมุดก็ได้ เพื่อที่จะไม่พลาดเวลาไปถึงหน้างานจริงจะได้ถ่ายวิดีโอตามที่วางแผนไว้ ไม่ควรไปลุยแบบสด ๆ หน้างาน เพราะจะทำให้เราเหนื่อยและทำงานไม่ค่อยเป็นระบบ โอกาสพลาดในการได้ Footage ที่สวย ๆ ก็จะลดลงด้วย

7. อย่าฝืนประสิทธิภาพของ Gimbal ไม่ควรให้ Gimbal รับน้ำหนักเกินกว่าที่ทางผู้ผลิตแนะนำไว้

สุดท้ายเลยคือถ้าไม่จำเป็นอย่างฝืนความสามารถของตัว Gimbal ครับ เพราะว่าบางครั้งเราอาจจะลองโหลดกล้องกับเลนส์ที่เกิน Spec ตัว Gimbal จะรับได้ แต่ว่าการทำงานจริงอาจจะมีปัจจัยเรื่องของการเคลื่อนไหวของเรา การเคลื่อนที่ของ Gimbal น้ำหนักและแรง G ที่ตกไปที่ตัว Gimbal มันถูกเติมเข้าไประหว่างที่มีการเคลื่อนไหว อาจจะทำให้ Gimbal เกิดการรับน้ำหนักที่เกินกว่าประสิทธิภาพตัวอุปกรณ์จะรองรับได้ ดังนั้นไม่ฝืนจะดีกว่าครับ