fbpx
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

5 เหตุผลที่ทำไมรองเท้าผ้าใบทั่วไปถึงไม่ควรใช้วิ่ง

ปัจจุบันการวิ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่คนรักสุขภาพจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ เพราะเป็นกิจกรรมที่เริ่มต้นได้ง่ายไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนเพียงมีรองเท้าคู่ใจก็สามารถวิ่งได้แล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่าใส่รองเท้าผ้าใบธรรมดา หรือรองเท้าเดินที่มีอยู่ใส่วิ่งได้ไหม ?

อันที่จริง ๆ สามารถใส่วิ่งได้ แต่ไม่เหมาะสำหรับการวิ่งจริงจัง เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงเกิดอาการบาดเจ็บได้ ซึ่งมีโอกาสมากถึง 20-70% เนื่องจากการวิ่งจะมีแรงกดบนฝ่าเท้า ข้อเท้า เข่า และแผ่นหลัง และลักษณะการวิ่งของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน จึงมีแรงกระแทกมากกว่าการเดินหลายเท่า รองเท้าวิ่งจึงออกแบบมาให้พยุงแรงกด การซัพพอร์ตข้อเท้า และข้อเข่านั่นเอง ดังนั้นในบทความนี้จะเป็นเรื่อง 5 เหตุผลที่ทำไมรองเท้าผ้าใบทั่วไปถึงไม่ควรใช้วิ่ง

1.รองเท้าเดินมีน้ำหนักเยอะและความยืดหยุ่นไม่เท่ารองเท้าวิ่ง

แน่นอนว่ารองเท้าผ้าใบธรรมดา หรือรองเท้าเดินทั่วไป จะมีความยืดหยุ่นไม่เท่ารองเท้าวิ่ง โดยรองเท้าเดินทั่วไปนั้นจะมีลักษณะโครงสร้างที่แข็งแรงกว่ารองเท้าวิ่ง และมีน้ำหนักที่มากกว่าด้วยเช่นกัน ดังนั้นการใช้รองเท้าที่หนักและยืดหยุ่นน้อยในการวิ่งทำให้เกิดความเมื่อยล้าและไม่สะดวกสบายอย่างที่ต้องการ

2.ขาดการซัพพอร์ตแรงกระแทกที่เหมาะสม เสี่ยงได้รับอาการบาดเจ็บได้

การวิ่งจะมีแรงกระแทก ดังนั้นการสวมรองเท้าสำหรับวิ่งควรจะเป็นรองเท้าที่สามารถรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ ซึ่งการรับน้ำหนักกับแรงกระแทกนั้น รองเท้าวิ่งออกมาซัพพอร์ตเท้าที่ส้นและปลายเท้า ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บต่าง ๆ เช่น ข้อเท้าแพลง เป็นต้น ในขณะที่รองเท้าเดินทั่วไปส่วนใหญ่ไม่มีเทคโนโลยีซัพพอร์ตที่เพียงพอมากนัก ดังนั้นหากต้องวิ่งระยะไกล ๆ การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำจึงเป็นเรื่องสำคัญ

3.การยึดเกาะพื้นไม่ดีพอ

พื้นรองเท้าวิ่งออกแบบให้ยึดเกาะพื้นได้ดีในทุกสภาพพื้นผิว ลดความเสี่ยงที่จะลื่นล้ม เพิ่มความมั่นคงในการวิ่ง ในขณะที่รองเท้าทั่วไปยึดเกาะทำได้ไม่ดีเท่า เมื่อวิ่งก็อาจจะทำให้ลื่นล้มและบาดเจ็บได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อวิ่งบนพื้นผิวที่ไม่เรียบหรือเปียกชื้น

4.การระบายอากาศที่ไม่เพียงพอ

เมื่อวิ่งเป็นเวลานาน ๆ จะมีเหงื่อตามบริเวณเท้า ถ้าหากใส่รองเท้าเดินทั่วไปอาจจะไม่สามารถระบายอากาศได้เพียงพอ หากต้องใช้วิ่งหรือออกกำลังกายหนัก ๆ ทำให้เท้าอับชื้นและเกิดกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเชื้อราหรือแบคทีเรียที่เท้าอีกด้วย ในขณะที่รองเท้าวิ่งออกแบบให้สามารถระบายอากาศได้ดี ช่วยลดความอับชื้นและลดการเกิดกลิ่นได้ดี

5.ใช้งานผิดประเภททำให้รองเท้าพังเร็ว

รองเท้าผ้าใบหลาย ๆ คู่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อออกกำลังกายหนัก ๆ ใส่สำหรับใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป หากเราเอาไปใส่เล่นกีฬาหนัก ๆ อย่างวิ่ง แตะบอล เป็นต้น นอกจากรองเท้าจะพังเร็วแล้ว ยังมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย

สรุป

การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากใช้รองเท้าสำหรับเดินมาใช้ในการวิ่ง ก็อาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ดังนั้นการเลือกใช้รองเท้าวิ่งที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการวิ่ง ช่วยซัพพอร์ตเท้าข้อต่อ และช่วยให้การวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สนใจเป็นเจ้าของรองเท้าวิ่ง BMAI หรือต้องการคำปรึกษาในการเลือกรองเท้าวิ่ง สามารถสอบถามได้ที่ Lnwgadget พร้อมให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย

Prev
ฟิลเตอร์กล้อง ND กับ CPL ต่างกันอย่างไร และใช้งานในสถานการณ์ไหนบ้าง ?

ฟิลเตอร์กล้อง ND กับ CPL ต่างกันอย่างไร และใช้งานในสถานการณ์ไหนบ้าง ?

Next
พรีวิว K&F True Color Nano-X CPL+VND 2 in 1 ฟิลเตอร์ลดแสง ลดเงาสะท้อน ถ่ายวิวทิวทัศน์ได้ภาพสีสันสวยขึ้น ในราคาหลักพัน!

พรีวิว K&F True Color Nano-X CPL+VND 2 in 1 ฟิลเตอร์ลดแสง ลดเงาสะท้อน ถ่ายวิวทิวทัศน์ได้ภาพสีสันสวยขึ้น ในราคาหลักพัน!

You May Also Like