5 ไอเดียการจัดไฟสตูดิโอ ในงานวิดีโอสำหรับคนเริ่มต้น

5 ไอเดียการจัดไฟสตูดิโอในงานวิดีโอสำหรับคนเริ่มต้น หากเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นกับงานวิดีโอ ก็คงรู้สึกว่าเรื่องของการจัดแสงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันซับซ้อนกว่าการแค่นำไฟมาวางแล้วส่องเข้าไปที่ใบหน้าโดยตรง

ดังนั้นในบทความนี้ จะลองแนะนำ เทคนิคจัดไฟสตูดิโอสำหรับถ่ายวิดีโอ 5 รูปแบบที่เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้น ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้งานง่ายและสามารถทำตามได้จริง ไม่ว่าจะใช้ ไฟสตูดิโอสำหรับวิดีโอมือใหม่ หรืออุปกรณ์พื้นฐานที่มีอยู่แล้วก็ตาม เพื่อให้ภาพในวิดีโอของคุณดูสว่าง นุ่มนวล และเป็นมืออาชีพมากขึ้นครับ

1. จัดไฟหลัก (Keylight) ให้เฉียง 45 องศา ปรับเเสงเป็น soft light เพื่อให้เห็นมิติบนใบหน้า

โดยจะให้เงาทาบบางส่วนบนใบหน้า เพื่อให้เห็นมิติบนใบหน้า โดย แสงหลัก (Key Light) จะอยู่เฉียงไปประมาณ 45 องศา อาจจะเป็นเฉียงซ้ายหรือเฉียงขวา แล้วแต่ลักษณะของใบหน้าและอารมณ์ภาพที่ต้องการ

ลักษณะของเงาที่เกิดขึ้นจะไม่ลึกเกินไป ควรปรับแสงให้เป็น Soft Light ด้วยการใช้ Light Modifier หรือ Softbox สำหรับถ่ายวิดีโอ เพื่อให้แสงที่ตกกระทบใบหน้าเบาลง ผิวดูนวลมากยิ่งขึ้น และช่วยลดเงาแข็ง ๆ ที่อาจทำให้ภาพดูไม่เป็นธรรมชาติ

2. จัดไฟให้เเสงเข้าด้านหน้าสองตัวซ้ายขวา และด้านข้างของตัวเเบบสร้าง Rim Light เพื่อให้ตัวเเบบดูโดดเด่นขึ้น

การ จัดไฟถ่ายวิดีโอแบบ Rim Light เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ตัวแบบดูโดดเด่นและแยกออกจากพื้นหลัง ลดเงาที่เกิดขึ้นบนใบหน้า โดยนอกจากจะใช้ ไฟหลัก (Key Light) ที่ส่องเข้าด้านหน้าของตัวแบบสองตัวเฉียง 45 องศาซ้าย–ขวาแล้ว อีกวิธีหนึ่งคือการใช้แสงส่องเข้าด้านหลังสองตัว เฉียง 45 องศาซ้าย–ขวาเช่นกัน เพื่อสร้างแสงขอบรอบตัวแบบให้ดูมีมิติ

แต่หากไม่มีไฟครบสี่ตัว สามารถใช้ แผ่นสะท้อนแสง (Reflector) แทนไฟที่ควรจะมีด้านหลังได้ โดยให้แสงสะท้อนเพียงพอที่จะส่องให้ขอบโครงร่างของตัวแบบมีแสงเป็นแบบ Rim Light ซึ่งจะช่วยให้ตัวแบบดูมีความโดดเด่นมากขึ้นในเฟรมภาพ

3.ให้เเสงส่องเข้าพื้นหลัง ทำหน้าที่เป็นเเสงด้านหลังตัวเเบบ เเละช่วยเล่าเรื่องราวบนพื้นหลัง

การ จัดไฟสตูดิโอแบบ Back Light เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้วิดีโอดูมีมิติและมีเรื่องราวมากขึ้น โดยใช้ ไฟเสริม (Background Light) ส่องเข้าด้านหลัง เพื่อให้แสงตกกระทบหลังฉาก ถ้าเป็นฉากหลังที่เป็นพื้นผิวเรียบหรือสีล้วน แสงที่ตกกระทบจะช่วยสร้างความโดดเด่นให้ตัวแบบแยกออกจากฉากหลังได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

แต่หากพื้นหลังมี อุปกรณ์ประกอบฉาก (Props) หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ในการถ่ายวิดีโอ แสงที่ส่องเข้าไปยังพื้นหลังจะช่วย “บอกเล่าเรื่องราว” ของฉากนั้นได้ดีขึ้น เช่น การเน้นเงา วัตถุ หรือสี เพื่อให้ภาพโดยรวมของวิดีโอดูมีมิติและบรรยากาศที่สมจริงมากขึ้น

4. ให้เเสงไฟหลักส่องตั้งฉากกับตัวเเบบ เพื่อสร้างเงาทึบ ให้ความรู้สึกเข้ม ลึก ดูเร้าใจ

การ จัดไฟสตูดิโอแบบ Side Light 90 องศา เป็นเทคนิคที่ให้แสงตกกระทบเพียงด้านเดียวของตัวแบบ เพื่อสร้างเงาทึบและความลึกของภาพ ลักษณะนี้มักเห็นได้บ่อยในคลิปของ Youtuber หรือใน มิวสิกวิดีโอของศิลปิน หลายท่าน โดยใช้ไฟส่องไปที่ด้านข้างของตัวแบบตรง 90 องศา เพื่อให้เกิดเงาลึกทาบไปยังอีกด้านหนึ่งของใบหน้า

การใช้ แสงตั้งฉากกับตัวแบบ จะช่วยสร้างอารมณ์ของวิดีโอให้ดูเข้มจริงจัง เร้าใจ และช่วยขับมิติของใบหน้าให้เด่นชัดมากขึ้น เทคนิคนี้เหมาะกับงานวิดีโอแนวเท่ห์ ดราม่า หรือคอนเทนต์ที่ต้องการสื่ออารมณ์เข้มข้นครับ

5. เลือกไฟคุณภาพดีได้มาตรฐานสีไม่เพี้ยน ทำให้งานมีคุณภาพ

โดยทั่วไป ไฟสตูดิโอสำหรับถ่ายวิดีโอ จะมีมาตรฐานการวัดคุณภาพของแสง เพื่อให้สีที่ออกมามีความเที่ยงตรงและคงที่ โดยมีค่ามาตรฐานสำคัญอย่าง CRI (Color Rendering Index) และ TLCI (Television Lighting Consistency Index) ซึ่งเป็นค่าที่ใช้วัดคุณภาพของแสงให้ตรงกับอุณหภูมิสีที่ระบุไว้

ค่าที่เหมาะสมสำหรับงานวิดีโอหรือการถ่ายภาพ ควรอยู่ในช่วง CRI 90–95 หรือสูงกว่า เพื่อให้ได้แสงที่แม่นยำ สีไม่เพี้ยน และให้โทนสีของภาพออกมาสมจริง ซึ่งจะช่วยให้งานโดยรวมมีคุณภาพระดับมืออาชีพครับ

ซึ่งถ้าเป็น ไฟสตูดิโอมาตรฐานสำหรับถ่ายวิดีโอ แล้ว เวลาถ่ายจริงจะช่วยลดปัญหาเรื่อง ไฟให้สีไม่เท่ากัน หรือสีเพี้ยน ซึ่งทำให้ตัวแบบหรือสีของผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับสีจริง ต้องมานั่งปรับสีเพิ่มเติมในกระบวนการ Color Grading ภายหลัง

ดังนั้น ไฟสตูดิโอที่เลือกใช้ควรเป็นไฟคุณภาพดี ได้มาตรฐานแสงที่มีค่า CRI (Color Rendering Index) และ TLCI (Television Lighting Consistency Index) สูง เพื่อให้สีไม่เพี้ยน และได้ภาพหรือวิดีโอที่คงสีจริงตามต้นฉบับมากที่สุดครับ

วิธีการจัดไฟในงานสตูดิโอ ที่มือใหม่จำเป็นต้องรู้ !!

สนใจ NICEFOTO HC-1000BII LED (ประกันศูนย์ไทย) ราคา 5,600 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LNWGADGET

ผู้เขียน