ไมโครโฟนไร้สาย Rode Wireless Go กับงานคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ

September 17, 2019
Reviews

ไมโครโฟนไร้สาย Rode Wireless Go ไมโครโฟนที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบันทึกเสียงในระดับมืออาชีพ ซึ่งพลิกเกมส์ตลาด Wireless Microphone ก็ด้วยที่ใช้งานได้ง่าย ขนาดเล็ก แล้วประสิทธิภาพดีนี่แหละ แถมราคายังเริ่มต้นได้ง่ายด้วย วันนี้เดี๋ยวเราจะคุยกันว่า คุณภาพเสียงระดับมืออาชีพที่ Rode Wireless Go ทำได้ รวมถึงความสามารถรอบได้ ตอบโจทย์จุดไหน ดียังไงกันบ้าง

ไมโครโฟนไร้สาย Rode Wireless Go กับงานคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ

1. คุณภาพเสียงที่ได้จากไมโครโฟน เก็บครบทุกรายละเอียดของเสียง ทุกย่าน และให้มิติเสียงที่ดี

มิติของเสียงไมโครโฟนที่ดีควรจะบันทึกได้ทั้งเสียงในย่านต่ำ กลาง และย่านสูง ที่ได้รายละเอียดครบถ้วน เวลาฟังเสียงพูดต้องมีน้ำหนัก ซึ่ง Rode Wireless Go ทำได้แบบนั้นเลย แล้วทำให้เนื้อเสียงที่ได้มีความคม ชัดเจน เอาไว้ใช้ในงานสัมภาษณ์และคอนเทนต์แบบเที่ยวก็ทำได้

2. การออกแบบและดีไซน์ น่าเชื่อถือ ทั้งแบรนด์ ทั้งรูปลักษณ์

เรื่องรูปลักษณ์สำคัญมากสำหรับการทำงานระดับมืออาชีพ ซึ่งไมโครโฟนในสายการผลิตของ Rode นั้นโดดเด่นด้านการออกแบบในระดับบต้น ๆ ของโลกแล้ว ความเนี๊ยบที่ Rode ทำออกมา สัมผัสได้ถึงความ Professioal และความเรียบง่ายที่ลงตัว

นอกจากนี้ชื่อแบรนด์ Rode เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั่วโลกว่าเก่งในด้านอุปกรณ์บันทึกเสียงสำหรับงานวิดีโออยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเลยถ้าคุณต้องใช้ไมโครโฟนตัวนี้รับงาน

3. สัญญาณเสถียร ไว้ใจได้ แม้ว่าจะเจอสิ่งกีดขวางก็ยังทำงานได้หายห่วง

ไมโครโฟน Rode Wireless Go นั้นจะใช้การส่งสัญญาณแบบ WiFi 2.4GHz ทำให้คลื่นสัญญาณมีความเสถียรที่สูง ในพื้นที่โล่งสามารถส่งสัญญาณได้ไกลถึง 100 เมตร และในพื้นที่ซึ่งมีสิ่งกีดขวางก็ยังรับได้ถึง 30 เมตร

ซึ่งครอบคลุมพื้นที่การจัดงานอีเวนต์เลย ถ้าสังเกตเห็นใน Facebook Live หรือ Vlog Video ตัวไมโครโฟน Rode Wireless Go จะถูกนำไปใช้ค่อนข้างมากพอสมควร เพราะด้วยจุดเด่นเหล่านี้นั่นเองครับ

4. ลดเวลาการทำงานให้สั้นที่สุด แต่ประสิทธิภาพได้ความแน่นอนที่สุดในกลุ่มไมโครโฟนไร้สาย

ฝันร้ายของคนใช้ไมโครโฟนคือ เชื่อมต่กันลำบาก ยาก ไม่ติดบ้าง แล้วกว่าจะเข้าใจก็กินเวลาไปเยอะ ซึ่งตัดเรื่องพวกนี้ออกไปให้หมดได้เลย เพราะตัว Rode Wireless Go จะใช้การส่งสัญญาณแบบใหม่คือ WiFi 2.4 GHz ที่บอกไปข้างต้นว่าส่งได้ไกลประมาณ 100 เมตรเลย

แล้วอีกอย่างหนึ่งคือการเชื่อมต่อ ทุกอย่างจบใน 3 วินาที เปิดเครื่องก็แทบจะ Pair กันอัตโนมัติ ที่เหลือคือต่อสายไมค์เข้ากล้องก็จบแล้ว ทำให้ประหยัดเวลา แล้วขนาดอุปกรณ์เล็กนิดเดียว ทำให้ต่อไว้ที่ Hotshoe ของกล้องไว้แบบนั้นให้พร้อมตลอดเวลาเลยก็ได้

5. ใช้งานกับกล้องได้ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมไปถึงการบาลานซ์เข้ากับชุดกันสั่นทุกแบบ

กล้องวิดีโอในปัจจุบันมีทั้งขนาดใหญ่ที่เป็น Full Frame และขนาดเล็กอย่าง Compact, Action Camera ซึ่งกล้องเหล่านี้ก็มักจะต้องต่อพ่วงเข้ากับ Gimbal อีก คำถามคือ Rode Wireless Go ใช้กับพวกนี้ได้ทั้งหมดไหม

คำตอบคือได้แบบเหลือเฟือ เพราะไมโครโฟน Rode Wireless Go เบามาก น้ำหนักแค่ 31 กรัม ทำให้สามารถเอาไปใช้กับกล้องอะไรก็ได้, Gimbal อะไรก็ได้ ซัพพอร์ตหมดแน่นอน

6. รองรับการต่อไมโครโฟนแยกสำหรับคุณภาพเสียงที่สูงมากขึ้น

ไมโครโฟน Rode Wireless Go นั้นจะมี Port การเชื่อมต่อไมโครโฟนอื่น ๆ ได้ด้วย ถ้าหากว่าเราต้องการขยายคาแรคเตอร์เสียงของไมค์ให้ตรงตามความต้องการมากขึ้น เราสามารถเอาไมค์แยกมาต่อเข้ากับ Rode Wireless Go ได้เลย ทำให้ไมค์ที่เรามีนั้นใช้แบบไร้สายได้

7. มีศูนย์ให้บริการในประเทศไทย พร้อมให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย

สิ่งสำคัญมาก ๆ อีกอย่างหนึ่งคือ มีศูนย์ในไทยหรือเปล่า ซึ่ง Rode มีประกันศูนย์ไทยและมีร้านให้คำปรึกษาทั้งก่อนและหลังการขายก็คือ lnwgadget สามารถที่จะสอบถามการใช้งานและติดตั้ง ทั้งก่อนและหลังการขายได้เลย