fbpx
skip to Main Content

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs Twin ต่างกันตรงไหน และรุ่นไหนดีสุด

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs Twin ต่างกันตรงไหน และรุ่นไหนดีสุด เปรียบเทียบความสามารถของกล้องสองตัวเด่นที่หลายคนต้องการคำตอบว่า รุ่นไหนดีที่สุด เทพที่สุดกันแน่ ในวันนี้เราได้สรุปรายละเอียดที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Insta360 ทั้งสองรุ่นนี้ และรุ่นไหนจะเหมาะกับคุณสามารถอ่านทีละประเด็นได้เลย

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs Twin ต่างกันตรงไหน และรุ่นไหนดีสุด

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs Twin ต่างกันตรงไหน และรุ่นไหนดีสุด

1. การถ่ายภาพนิ่ง ไฟล์สวย ความละเอียดสูงสุด

ความสามารถในการถ่ายภาพนิ่งถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับสายท่องเที่ยวนะครับ ซึ่งความละเอียดของกล้องทั้งสองรุ่นนี้ไม่ว่าจะ Insta360 One R 4K และ Insta 360 One R Twin นั้นก็สามารถที่จะถ่ายภาพนิ่งได้ความละเอียดเท่ากัน คือ 12 ล้านพิกเซล

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs Twin ต่างกันตรงไหน และรุ่นไหนดีสุด

12 ล้านพิกเซลนี่ดีขนาดไหนในปัจจุบัน ก็ต้องบอกเลยว่าตอบโจทย์ในการอัพภาพลงในทุกโซเชียลเลยไม่ว่าจะ Facebook, Instagram, Twitter หรือใครจะ Advance เอาไฟล์ไปใช้ในงาน Video ก็สามารถทำได้ดีเหมือนกัน

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs Twin ต่างกันตรงไหน และรุ่นไหนดีสุด

สรุป Insta360 One R 4K กับ Insta360 One R Twin ถ่ายภาพนิ่งได้เก่งเท่ากันครับ

2. ไฟล์วิดีโอของใครสวยกว่า ไฟล์ใครดีกว่ากัน

ประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอนั้นมีความสามารถแตกต่างกันอยู่ประมาณนึง ซึ่งตัว Insta360 One R 4K นั้นจะสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ 4K ส่วนการถ่ายวิดีโอของ Insta360 One R Twin รุ่นนี้จะมีความสามารถในด้านความละเอียดที่สูงกว่าเป็น 5.6K เพราะเขามีกล้อง 4K+กล้อง 360 องศา 5.6K มาด้วย ทำให้ได้เปรียบเรื่องความละเอียดไฟล์ครับ

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs Twin ต่างกันตรงไหน และรุ่นไหนดีสุด

สรุป Insta360 One R Twin มีความละเอียดวิดีโอ 5.6K สูงกว่า Insta 360 One R 4K ครับ

3. ประสิทธิภาพของระบบกันสั่น ความนิ่ง การใช้งานจริง

ประสิทธิภาพในการทำงานของระบบกันสั่นและความนิ่งของ Insta360 One R 4K และ Insta360 One R Twin นั้นจะใช้ FlowState Stabilizer เหมือนกัน การกันสั่นทำได้เหมือนกัน เพราะงั้นถ้านับเรื่องประสิทธิภาพของการกันสั่น ทั้งคู่ทำได้ดีมากครับ

4. ระบบ Tracking การติดตามวัตถุ ใครแม่นกว่า

ระบบ Tracking จะเป็นฟีเจอร์หลักที่ช่วยให้การถ่ายวิดีโอแบบมีวัตถุเคลื่อนไหวนั้นโฟกัสได้เข้าเป้า แล้วก็ปรับมุมมองตามไปด้วยได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ทำได้แค่ Insta360 One R Twin เท่านั้น เพราะต้องเป็นคุณสมบัติของกล้อง 360 องศา เพราะงั้นกล้อง Insta360 One R 4K ก็อดที่จะใช้ความสามารถตรงนี้ครับ

สรุป Insta360 One R Twin มีระบบโฟกัสติดตามวัตถุอย่างแม่นยำ ส่วน Insta360 One R 4K ไม่มีความสามารถนี้ให้ใช้

5. ความหลากหลายของมุมกล้อง

เรื่องของมุมกล้องที่หลากหลายก็ช่วยให้เราสามารถถ่ายวิดีโอออกมาได้เรื่องราวที่แตกต่างกันได้มากขึ้น ซึ่ง Insta360 One R Twin ได้เปรียบตั้งแต่เรื่องของกล้องที่เยอะกว่าตัวรุ่น Insta360 One R 4K อยู่แล้ว

ตัว Insta360 One R Twin นั้นสามารถที่จะถ่ายวิดีโอแบบกล้อง Action Camera และสามารถวางมุมมองให้ได้อารมณ์แบบ Cinematic ได้ด้วย หรือจะใช้กล้อง 360 องศา ถ่ายวิดีโอรอบตัวแล้วเลือกมุมกล้องทีหลังได้ด้วย อันนี้ได้เปรียบเรื่องมุมกล้องที่สุดแล้ว

สรุป Insta360 One R Twin มีมุมกล้องที่หลากหลายกว่า Insta360 One R 4K

6. ฟีเจอร์การเลือกมุมกล้องทีหลัง ถ่ายก่อน ไม่พอใจ เอามาเลือกมุมใหม่ได้

โหมดวิดีโอที่พลิกโลกการถ่ายวิดีโอที่แท้จริงเลย เพราะเมื่อก่อนเราถ่ายแล้วถ่ายเลย พลาดก็ต้องถ่ายใหม่ แต่ Insta360 One R Twin สามารถที่จะถ่ายวิดีโอแบบ 360 องศา แล้วเราเอามาเลือกมุมกล้องทีหลังได้ อันนี้คือโหดขั้นสุด

แน่นอนว่า Insta360 One R 4K นั้นทำแบบนี้ไม่ได้ครับ เพราะว่าใช้ความสามารถของกล้อง 360 องศาเท่านั้น

สรุป Insta360 One R Twin สามารถที่จะใช้โหมดถ่ายวิดีโอก่อนแล้วเลือกมุมกล้องทีหลังได้

7. รูรับแสง ความสามารถในการถ่ายภาพและวิดีโอในที่แสงน้อย

รูรับแสงที่กว้างนั้นสามารถที่จะช่วยให้เราถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอในที่แสงได้น้อยคุณภาพที่ดีขึ้นมาก ซึ่ง Insta360 One R Twin นั้นชิงความโดดเด่นตรงที่เปิดรูรับแสงได้กว้างถึง F2.0 ซึ่งรูรับแสงของ Insta360 One R 4K ใช้รูรับแสงได้กว้างสุดแค่ F2.8 เท่านั้นเอง

ก็เลยทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยของ Insta360 One R Twin Edition ได้เปรียบในข้อนี้ไป ถ้าหากจะเน้นเรื่องที่แสงน้อย จัดตัว Insta360 One R Twin คุ้มกว่ามากครับ

สรุป Insta360 One R Twin ใช้รูรับแสงได้กว้างกว่า Insta360 One R 4K

8. ความสามารถในการใช้กันน้ำ ดำน้ำได้ลึกแบบไม่ต้องใส่ Housing

ความสามารถในการกันน้ำ หรือถ่ายใต้น้ำแบบที่ไม่ต้องใส่เคสกันน้ำเลย ทั้งสองรุ่นนี้ทำได้ดีเท่ากันที่ 5 เมตร ช่วยให้เราเก็บ Footage ใต้น้ำได้อย่างเต็มที่ หรือจะถ่ายภาพนิ่งตอนดำน้ำได้ดีเลยนะ

สรุป Insta360 One R Twin และ Insta360 One R 4K ดำน้ำได้ลึก 5 เมตรเท่ากันแบบที่ไม่ต้องใส่เคสกันน้ำเลย

9. การถ่ายวิดีโอแบบ ​Slow Motion

ทีนี้เรามาดูความสามารถในการถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion กันบ้างครับ Insta360 One R Twin และ Insta 360 One R 4K สามารถที่จะถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ได้มากถึง 8 เท่าจากวิดีโอปกติ ทำให้เราเก็บ Moment ที่น่าสนใจได้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมท่องเที่ยว วิ่ง หรือกิจกรรมของเด็ก ๆ ที่กำลังสนุกสนาน เราสามารถที่จะถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ได้เลย

สรุป Insta360 One R Twin และ Insta360 One R 4K สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ได้ดีเท่ากันคือ 8 เท่า จากวิดีโอปกติ

10. ความสามารถในการถ่ายภาพแบบ ​HDR และ Night Shot

โหมด HDR และ Night Shot เป็นโหมดที่เรียกได้ว่า ต้องมีนะ เพราะต้องใช้ในการถ่ายภาพที่แสงน้อย และที่มีความมืดกับสว่างอยู่ในเฟรมเดียวกัน ซึ่งถ้าไม่มีสองโหมดนี้จะถ่ายภาพออกมาให้สวยได้ยาก ซึ่ง Insta360 One R 4K และ Insta360 One R Twin สามารถที่จะถ่ายด้วยทั้งสองโหมดนี้ได้เลย

เพราะงั้นถ้าคุณเป็นคนที่ต้องถ่ายภาพย้อนแสงบ่อย ๆ และถ่ายภาพในที่แสงน้อยบ่อยด้วย Insta360 One R Twin และ Insta360 One R 4K สามารถที่จะตอบโจทย์ตรงนี้ได้เลย

สรุป Insta360 One R Twin และ Insta360 One R 4K สามารถถ่าย HDR ได้ และรองรับการถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยด้วย Night Shot

สั่งซื้อ Insta360 One R Twin Edition และ Insta360 One R 1-Inch Leica ประกันศูนย์ที่ร้าน lnwgadget ได้ครับ

×Close search
Search