fbpx
skip to Main Content

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black ต่างกันยังไง รุ่นไหนดีกว่ากันบ้าง

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black ต่างกันยังไง รุ่นไหนดีกว่ากันบ้าง ซึ่งเป็นกล้องสองรุ่นที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์กลุ่มตลาดเดียวกันคือกล้องขนาดเล็ก ดีไซน์แบบ Action Camera มีระบบกันสั่นประสิทธิภาพสูง และเน้นพกพาง่าย ได้ไฟล์สวย

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black

ตอนนี้มีเจ้าตลาดหลักอย่าง GoPro Hero 8 Black ที่อัดประสิทธิภาพมาแน่นและครองใจคนไทยมายาวนาน กับของใหม่ในตลาด ฟีเจอร์เด่น ดีไซน์สวย Insta360 One R 4K ในวันนี้มาหาคำตอบกันครับว่าสองรุ่นนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างตรงไหน และน่าสนใจยังไงบ้าง

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black ต่างกันยังไง รุ่นไหนดีกว่ากันบ้าง

ความละเอียดของวิดีโอ

กล้องไหนถ่ายวิดีโอดีกว่ากันนะเนี่ย ระหว่าง Insta360 One R 4K กับกล้อง GoPro Hero 8 Black กล้องทั้งสองรุ่นนี้ผมขอบอกเลยว่าโหดกันทั้งคู่เลย คือสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดที่ 4K ได้ทั้งสองรุ่น ได้ไฟล์ที่สวยทั้งสองรุ่น 

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black

Insta360 One R 4K จะถ่ายวิดีโอ 4K ที่เฟรมเรต 60 เฟรม เท่ากันกับ GoPro Hero 8 Black ที่จะถ่ายวิดีโอ 4K ที่เฟรมเรต 60 เฟรมต่อวินาทีเหมือนกัน

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black

ซึ่งเฟรมเรตจะให้ภาพที่ลื่นไหลมากกว่าและยังเอาเฟรมวิดีโอไปทำคลิปแบบ Slow Motion ได้ด้วย

แต่ถ้าจะสรุปแค่นั้นยังไม่หมดครับ สิ่งที่ Insta360 One R 4K ทำได้ดีมากก็คือเรื่องของ Video HDR ที่จะช่วยให้เราถ่ายวิดีโอได้แสงสวยแม้ว่าเราจะถ่ายย้อนแสง เป็นโหมดที่จะทำให้เก็บแสงและเงาสวยมากขึ้นกว่าเดิม เป็นโหมดพิเศษที่มีแค่ใน Insta360 One R 4K เท่านั้นครับ ดังนั้นแม้เฟรมเรตจะเท่ากัน แต่ Video HDR ก็ยังจำเป็นนะสำหรับการถ่ายวิดีโอออกมาให้สวย

สรุป GoPro Hero 8 Black และ Insta360 One R 4K ที่ถ่ายวิดีโอได้ที่ 4K เฟรมเรต 30 เฟรมได้เก่งเท่ากันครับ แต่ถ้าความเหนือที่มากกว่าคือ Insta360 One R 4K จะสามารถถ่ายวิดีโอแบบ HDR ได้ ทำให้ได้รายละเอียดของไฟล์ตอนย้อนแสงที่สวยมากกว่า

ความละเอียดภาพนิ่ง

ต่อจากเรื่องของประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอแล้วเรามาดูความสามารถในการถ่ายภาพนิ่งกันบ้าง ซึ่งกล้องทั้งสองรุ่นนี้มีกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่เท่ากัน และทั้งสองรุ่นถ่ายภาพเป็นแบบ RAW File ได้ ซึ่งสามารถได้ไฟล์แบบมือโปรเอาไปแต่งภาพสวยได้เยอะกว่ามาก

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black

แต่ก็มีจุดต่างอีกเหมือนกันครับในเรื่องของโหมดถ่ายภาพพิเศษ Insta360 One R 4K จะมีโหมดถ่ายภาพ HDR ที่ช่วยให้การถ่ายภาพย้อนแสงได้รายละเอียดที่สวยงาม ในส่วนของ GoPro Hero 8 Black เขาจะชำนาญโหมดนี้มากกว่าคือ Super Photo HDR ซึ่งเป็นโหมดถ่ายภาพแบบ SuperPhoto + HDR ได้ภาพที่สวย รายละเอียดที่ครบถ้วน เป็นความชำนาญในแบบที่ GoPro ทำมาก่อนตั้ง 8 รุ่นใหญ่ ก็ต้องยอมเขาเถอะ เขาเก่งจริง ๆ ในด้านนี้ครับ

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black

สรุป GoPro Hero 8 Black และ Insta360 One R 4K ถ่ายภาพนิ่งได้ความละเอียดเท่ากันคือ 12 ล้าน และรองรับ RAW File แต่โหมด SuperPhoto HDR ของ GoPro ให้คุณภาพไฟล์ที่จัดเต็มกว่า เหมาะกับสายท่องเที่ยวและสายแอคชั่น

ระบบกันสั่นไหวของวิดีโอ

คราวนี้เรามาดูเรื่องประสิทธิภาพในการกันสั่นสำหรับการถ่ายวิดีโอกันบ้าง ทั้งสองรุ่นจะมีเทคโนโลยีในการกันสั่นเฉพาะ Insta360 One R 4K จะมีระบบกันสั่นที่เรียกว่า FlowState ส่วน GoPro Hero 8 Black จะมีระบบกันสั่นที่เรียกว่า HyperSmooth 2.0 + Boosted ซึ่งถ้าเอาตามสภาพในการใช้งานปกติ ถ่ายวิดีโอ จะวิ่งจะกระโดดโลดเต้นยังไง กล้องทั้งสองรุ่นนี้ยังสามารถที่จะกันสั่นได้นิ่งมากจนตอบโจทย์ได้เลย

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black

แต่ทางด้าน GoPro Hero 8 Black ด้วยที่เก๋าเกมส์ในตลาดกล้อง Action Camera มากกว่า เขาได้พัฒนาระบบกันสั่น HyperSmooth 2.0 เวอร์ชั่นอัพเกรดจากรุ่นเดิม ที่นิ่งกว่าเดิมมาก แล้วก็ใส่โหมด Boosted มาด้วย ทำให้กันสั่นได้แบบนิ่งเนี๊ยบกริ๊บ ถ้าอยากได้กันสั่นแบบที่สุดแนะนำ GoPro Hero 8 Black ครับ

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black

สรุป ในการใช้งานตามปกติ ทุกกิจกรรม กล้องทั้ง Insta360 One R 4K และ GoPro Hero 8 Black กันสั่นได้ดีมากทั้งคู่ แต่ GoPro จะทำให้เยอะกว่า เพราะเป็น HyperSmooth 2.0 + Boosted ครับ

มุมกล้องสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอ

ทีนี้เรามาดูเรื่องมุมกล้องกันบ้าง มุมกล้องนี่เป็นเรื่องเด่นที่สำคัญมากเหมือนกัน เพราะทำให้เราได้มิติภาพและอารมณ์ที่มีความแตกต่างกันออกไปครับ โดย Insta360 One R 4K จะมีมุมกล้องแบบเดียว ให้ระยะที่ 16.4mm ทำให้ยกกล้องห่างจากตัวนิดหน่อยก็ได้ภาพเรากับฉากหลังละ ถ่ายง่าย สนุก ขอบไม่โค้ง ดูเป็นธรรมชาติ

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black

ทีนี้เรามาดูฝั่ง GoPro Hero 8 Black กันบ้างครับ GoPro Hero 8 Black จะมาพร้อมกับมุมกล้อง 4 ระยะกันเลย SuperView (16mm), Wide (16mm-34mm), Linear (19mm-39mm) และ Narrow (27mm) ก็เลยทำให้ความยืดหยุ่นมีเยอะกว่ามาก ในประเด็นนี้ GoPro เลยชิงความโดดเด่นไปอย่างชัดเจนครับ

รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black
รีวิวเปรียบเทียบ Insta360 One R 4K vs GoPro Hero 8 Black

สรุป GoPro Hero 8 Black ให้มุมกล้องที่เยอะกว่าคือ 4 ระยะ SuperView (16mm), Wide (16mm-34mm), Linear (19mm-39mm) และ Narrow (27mm) ส่วน Insta360 One R 4K จะมีแค่ระยะเดียวคือ 16.4mm ครับ

การถ่ายวิดีโอแบบ Hyperlapse เพื่อสร้างวิดีโอสวย ๆ แบบสำเร็จรูป

โหมดในการถ่ายวิดีโอแบบเร่งเวลาแล้วก็เดินไปด้วยได้ที่เรียกว่า Hyperlapse กล้องทั้งสองรุ่นนี้ทำได้ทั้งคู่เลยซึ่ง Insta360 One R 4K จะมีโหมดที่เรียกว่า Hyperlapse ครับตรงตามชื่อเป๊ะ ส่วน GoPro Hero 8 Black จะมีโหมดที่เรียกว่า Timewarp 2.0 โดยความ Smooth ของทั้งสองกล้องตัวนี้ที่ทำออกมา มีความสามารถเท่า ๆ กันเลย แล้วก็ช่วยให้เราถ่ายวิดีโอแบบ Hyperlapse ได้อย่างสวยงามทั้งคู่ด้วย

shot on Insta360 One R

สรุป Insta360 One R 4K และ GoPro Hero 8 Black ถ่ายวิดีโอแบบ Hyperlapse ได้ทั้งคู่ครับ

ความสามารถในการกันน้ำแบบไม่ต้องใส่เคสดำน้ำ

ทีนี้เรามาเจาะเรื่องประสิทธิภาพในการดำน้ำกันบ้าง เรียกว่ากล้อง Action Camera คงต้องดำน้ำแบบไม่ต้องใส่ Housing ได้แน่นอน ซึ่ง Insta360 One R 4K นั้นจะดำน้ำได้ลึก 5 เมตร ไม่ได้ใส่เคสกันน้ำก็ลงได้เลย

ส่วน GoPro Hero 8 Black ทำได้เหนือกว่าคือ 10 เมตรครับ เราสามารถที่จะลงน้ำได้ลึกกว่านะ ถ้าใครเป็นสายถ่ายใต้น้ำตัวจริงแนะนำว่า GoPro Hero 8 Black มีความโดดเด่นตรงนี้มากกว่าครับ

การถ่ายภาพในตอนกลางคืนและที่แสงน้อย

ความสามารถในการถ่ายกลางคืนนั้นเป็นเรื่องเราต้องเจอบ่อย ๆ แน่นอน ซึ่งตรงนี้กล้องทั้งสองตัวมีจุดต่างที่น่าสนใจดังนี้ครับ

Insta360 One R 4K จะมีโหมดถ่ายภาพนิ่งตอนกลางคืนเลยที่เรียกว่า Night Shot ที่จะทำให้การถ่ายภาพกลางคืนสวยงามมาก ส่วน GoPro Hero 8 Black เราสามารถเอา SuperPhoto HDR มาใช้ถ่ายภาพกลางคืนได้ แต่ถ้ามองตามการใช้งาน Insta360 One R 4K จะถ่ายภาพนิ่งในโหมดกลางคืนได้ตรงจุดมากกว่า

สรุป เรื่องคุณสมบัติในการถ่ายภาพกลางคืนทั้ง Insta360 One R 4K และ GoPro Hero 8 Black มีโหมดที่รองรับการถ่ายกลางคืนได้ภาพอย่างสวยงาม แต่ Insta360 One R 4K จะมีโหมดเฉพาะในการถ่ายกลางคืนเลย ทำให้ได้ภาพที่ตรงกับความต้องการมากกว่าครับ

การถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion

เรื่องของการเก็บจังหวะวิดีโอที่นุ่มนวลคงจะหนีไม่พ้นโหมด Slow Motion ครับ ซึ่งกล้อง Insta360 One R 4K และ GoPro Hero 8 Black ทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นเหมือนกันเลยนะ คือ Slow Motion ได้ 8x จากวิดีโอปกติ ทำให้เราเก็บจังหวะที่น่าสนใจได้เยอะเลย

สรุป การถ่าย Slow Motion ของ Insta360 One R 4K และ GoPro Hero 8 Black นี้ทำได้เท่ากันครับคือ 8 เท่า

ความอึดของแบตเตอรี่ในการใช้งาน

สุดท้ายแล้วคือเรื่องของความอึดแบตเตอรี่ กล้องทั้งสองรุ่นนี้สามารถถ่ายวิดีโอได้นานแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยครับ คือ Insta360 One R 4K จะใช้งานต่อเนื่องได้นานที่สุด 70 นาที ส่วน GoPro Hero 8 Black จะเยอะกว่านิดหน่อยคือ 81 นาทีนั่นเองครับ ไม่ห่างกันมากนะ อันนี้แล้วแต่ชอบเลย

สรุป GoPro Hero 8 Black แบตเตอรี่อึดกว่า Insta360 One R 4K ครับ

สั่งซื้อ Insta360 One R Twin Edition และ Insta360 One R 1-Inch Leica ประกันศูนย์ที่ร้าน lnwgadget ได้ครับ

×Close search
Search