พรีวิว DJI Osmo Mobile 3 ไม้กันสั่นล่าสุดจาก DJI พกง่ายขึ้น สะดวกขึ้น พร้อม ​Active Track แบบ Gimbal ระดับมืออาชีพ

พรีวิว DJI Osmo Mobile 3 ไม้กันสั่นล่าสุดจาก DJI พกง่ายขึ้น สะดวกขึ้น พร้อม ​Active Track แบบ Gimbal ระดับมืออาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาทาง DJI นั้นก็เพิ่งปล่อย Gimbal Stabilizer รุ่นพี่ไปได้ไม่นาน ตอนนี้ก็แอบเปิดตัวไม้กันสั่นสำหรับมือถือรุ่นใหม่แบบไม่ทันตั้งตัว แถมยังใส่ความสามารถใหม่อีกเยอะมาก โดยเฉพาะฟังก์ชั่นที่อยู่ใน Gimbal ระดับมืออาชีพมาด้วย

พรีวิว DJI Osmo Mobile 3 ไม้กันสั่นล่าสุดจาก DJI พกง่ายขึ้น สะดวกขึ้น พร้อม ​Active Track แบบ Gimbal ระดับมืออาชีพ

จุดเด่นที่น่าสนใจของ DJI Osmo Mobile 3

• กันสั่นมือถือของเราได้นิ่งขึ้นกว่าเดิมเยอะ, ตัวไม้กันสั่นออกแบบให้มีน้ำหนักเบา พับเพื่อพกพาได้ง่ายขึ้น สะดวกมากขึ้น
• การออกแบบ Foldable Design สามารถพับเพื่อจัดเก็บได้ จะเป็นการพัฒนามาจากรุ่นก่อนมากพอสมควร ทำให้ไม้กันสั่นมีขนาดเล็กในการพกพา และน้ำหนักเบาแค่ 405 กรัมเท่านั้นเอง
• Ergonomic Grip การออกแบบดีไซน์ให้เข้ากับสรีระของมือ ทำให้การจับถือมีความกระชับ ใช้งานได้คล่องตัวมากกว่าเดิม เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกได้ทันทีว่าสะดวก จับได้มั่นคง ใช้งานง่าย
• Story Mode เป็นโหมดที่ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่น ทำให้สมาร์ทโฟนขยายศักยภาพของการถ่ายวิดีโอด้วยมือถือให้มากขึ้น ซึ่งสามารถเลือก Template ของวิดีโอแบบสวย ๆ แล้วถ่ายได้ทันที (Template ทำได้สวยระดับมือโปรเลย)
• Gesture Selfie ความสามารถที่ยกมาจากโดรน คือสั่งให้มือถือถ่าย Selfie ด้วยการใช้ท่าทาง “ยกมือ” แล้วตัว Gimbal จะกดชัตเตอร์ให้ โดยมีเวลาให้เราเตรียมตัวก่อนกดชัตเตอร์ด้วยนะ
• Active Track 3.0 ฟีเจอร์ที่สั่งให้ Smartphone ทำการ Tracking วัตถุ หรือตัวบุคคลเวลาที่ถ่ายวิดีโอ ระบบนี้ยกมาจากโดรนเป๊ะ ๆ แล้ว Track แม่นมากซึ่ง DJI พัฒนาระบบนี้มานานแล้ว
• Hyperlapse Hype ถ่ายวิดีโอแบบเร่งเวลาได้ง่าย ๆ แถมทำงานร่วมกับ Active Track 3.0 ทำให้เวลาถ่าย Hyperlapse กล้องสามารถ Lock Focus ที่วัตถุนั้น ๆ ได้ทันที
• Creative Modes สำหรับถ่าย Footage ระดับมืออาชีพ มาครบหมดตั้งแต่ Panorama, Timelapse, Slow Motion
• Single Handheld Control Design คือการออกแบบให้ถ่ายวิดีโอและ Operate จัดการควบคุมด้วยมือข้างเดียวแบบ 100% ทำให้สั่งงานได้คล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม
• Handy Convenience เลือกถ่ายวิดีโอแนวนอนหรือแนวตั้ง สั่งสลับได้ด้วยปุ่มเดียว ซึ่งสะดวกกว่ารุ่นก่อนมากขึ้น (จำเป็นมากพอสมควรสำหรับมือถือ)
• ปุ่มควบคุมพิเศษสำหรับ Advanced Control พวกอัดวิดีโอ ซูมเข้าซูมออก มี JoyStick ที่ควบคุมง่าย แล้วก็การเข้าถึง Quick Control ทำได้รวดเร็ว
• Dolly Zoom สำหรับการสั่งซูมให้มีความสมูท โดยทำงานร่วมกับแอพและการซูมของกล้องมือถือเขาให้ดีมากขึ้น นุ่มนวลขึ้น
• Sport Mode สามารถสั่ง Gimbal ให้ตอบสนองรวดเร็วกว่าเดิม สำหรับคนที่อยากถ่ายวิดีโอแนวกีฬา สามารถ Track หรือโฟกัสได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม 
• Edit & Quick Share เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้แอพนั้นสามารถ Edit Video ในแอพแล้วพร้อมแชร์ออกไปที่ ​Social Media อื่นได้โดยตรง ทำให้เราไม่ต้องลำบาก Export ไว้ในเครื่องแล้วไป Upload ผ่านแอพ Social อีกที ลดขั้นตอนในการแชร์วิดีโอลง

ก็ไม่คิดว่าจุดเด่นที่น่าสนใจจะมีความยาวมากขนาดนี้ เพราะว่าฟีเจอร์ที่ให้มาเกิน Gimbal ระดับมือถือไปแล้ว และก็มีหลายฟีเจอร์ที่เด่นกว่าไม้กันสั่นสำหรับกล้องปกติอีก ก็แน่นอนว่าออกแบบมาเพื่อคนที่ใช้มือถือนั้นให้สามารถได้อุปกรณ์ที่ดีที่สุดนั่นเองครับ เดี๋ยวเราไปเจาะความสามารถเด่นแต่ละอย่างกัน เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นครับ

การออกแบบและดีไซน์ที่ง่ายขึ้น สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม น้ำหนักเบาด้วย

DJI Osmo Mobile 3 นั้นมีการออกแบบในรุ่นนี้สะดวกขึ้นกว่ารุ่น DJI Osmo Mobile 2 มาก เพราะว่ารุ่นนี้สามารถพับได้ ประหยัดพื้นที่จะเก็บมากขึ้น สะดวกมากขึ้น พกพาได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งขนาดนั้นก็เหมาะกับ Gimbal สำหรับ Smartphone มากกว่าเดิม 

ประสิทธิ ภาพในการกั่นสั่นที่นิ่งขึ้น ช่วยทำให้การถ่ายวิดีโอคอนเทนต์เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

ในปัจจุบันกล้อง Smartphone ในรุ่น Flagship จะเห็นได้ว่ามีการพัฒนา Stabilizer ในตัวกล้องพอสมควร แต่ Gimbal Stabilizer ที่เป็นอุปกรณ์กันสั่นจริง ๆ ก็ช่วยให้การกันสั่นเกิดประสิทธิภาพได้อย่างดีที่สุด ทั้งการเดิน การวิ่ง หรือ Live ก็จะช่วยให้วิดีโอของเรามีความนุ่มนวลมากที่สุดนั่นเอง

Ergonomic Grip Design การออกแบบบอดี้ให้เข้ากับสรีระของมือเรามากที่สุด ทำให้การจับถือสะดวกขึ้น กระชับมากขึ้น มั่นคงกว่าเดิม

การออกแบบ Ergonomic นั้นเราจะได้ยินเรื่องของการออกแบบกล้องสำหรับมืออาชีพซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ทาง DJI Osmo Mobile 3 ได้นำการออกแบบนี้ยกมาใส่ Gimbal สำหรับ Smartphone ด้วย ทำให้การจับถือของผู้ใช้สะดวกขึ้น กระชับมากขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้ใช้ที่ถ่ายวิดีโอด้วยมือถือนั้นคือคนทั่วไป ไม่ว่าจะผู้ชาย ผู้หญิง มือเล็ก มือใหญ่ ก็สามารถจับได้กระชับ และควบคุมได้ง่ายที่สุด สิ่งสำคัญที่เราอาจจะไม่สังเกตคือ พอเราจับได้กระชับขึ้น มั่นคงขึ้น การส่งแรงที่สั่นไหวจะนุ่มนวลลง ทำให้ Gimbal มีความนิ่งที่มากขึ้น

Story Mode โหมดที่ทำให้มือใหม่ได้วิดีโอแบบมืออาชีพด้วยการจิ้มเลือก Template แค่ครั้งเดียว ถ่ายได้แบบมือโปรเลย

โหมดนี้โหดมาตั้งแต่ DJI Osmo Pocket แล้ว ถูกยกมาใส่ไม้กันสั่นสำหรับมือถือด้วย โดยความสามารถหลักคือเขาจะมี Template ที่ถ่ายวิดีโอเจ๋ง ๆ ให้เราเลือกใช้ จะทั้งหมด ทั้ง Track หรือซูมวิดีโอแบบเท่ห์ ๆ โดยที่เราไม่ต้องมีทักษะแบบมือโปรอะไรครับ เอานิ้วจิ้มเลือกได้เลย เขาเรียกว่า One-Tap Template ทำให้เราได้ Footage แบบสวยงามได้ทันที คือมือใหม่ระดับไหนก็ถ่ายวิดีโอแบบโปรได้เลย

Gesture Selfie โหมดเซลฟี่ที่อยู่ในโดรนก็ถูกยกมาใส่ Gimbal Stabilizer สำหรับมือถือด้วย

โหมด Gesture Selfie นั้นที่เราเคยเห็นจะอยู่ในโดรนคือสามารถถ่ายภาพโดยที่ยกมือขึ้นแล้วให้กล้องถ่าย Selfie ได้ทันที ทำให้คนที่ถ่ายภาพด้วยมือถือ ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรืออยากถ่ายภาพหมู่ ทำได้ง่ายขึ้น แค่ยกมือปุ๊บ กล้องจะมีเวลาให้เราเตรียมตัวเล็กน้อยก่อนลั่นชัตเตอร์อย่างสวยงาม

Active Track 3.0 ระบบ Tracking ระดับมืออาชีพทั้ง DJI Drones, DJI Ronin ก็มีความสามารถนี้ แน่นอน ไม้กันสั่นมือถือก็ทำได้

ระบบที่โหดมาก ๆ สำหรับ DJI คือระบบ Tracking ที่เขาพัฒนามาจากโดรน แล้วก็เอามาใช้กับ DJI Ronin SC ตัวล่าสุดที่อยู่ใน Gimbal สำหรับกล้องระดับโปร แล้วก็ถูกยกมาใส่ใน DJI Osmo Mobile 3 ที่เป็นไม้กันสั่นมือถือด้วย

ทำให้เราถ่ายวิดีโอได้แบบไม่หลุดโฟกัส การทำงานคือ Gimbal จะให้เราเลือกวัตถุที่จะทำการ Tracking หรือเลือกที่ตัวคน ระบบจะจดจำทั้งการโฟกัสและจดจำใบหน้าเราด้วย (เป็นระบบเดียวที่อยู่ในโดรน) จากนั้นจะทำให้ Gimbal ทำการติดตาม ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนในเฟรมภาพ ตัว Gimbal ก็จะหมุนตามอย่างรวดเร็ว ทำงานร่วมกับระบบโฟกัสของกล้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Hyperlapse Hype, Motion Lapse โหมดถ่ายวิดีโอแบบ Hyperlapse ที่แม้แต่กล้องระดับมือโปรยังต้องอิจฉา

ปกติแล้วการถ่ายวิดีโอแบบ Hyperlapse นั้นต้องเตรียมตัวเยอะทั้งกระบวนการก่อนถ่ายวิดีโอ และกระบวนการถ่าย เอาวิดีโอมานั่งทำจนได้ Hyperlapse ที่ใช้ได้สวย ๆ สักอัน หลากหลายขั้นตอนมาก

แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี้จะจบได้สะดวกสำหรับมือถือด้วยการที่เราสามารถถ่าย Hyperlapse แบบเดินได้เลย และไม้กันสั่นทำการ Tracking วัตถุที่ต้องการได้ตลอดเวลาที่เราเดิน เป็นการทำงานร่วมกับ Active Track 3.0 ทำให้เราสามารถถ่ายวิดีโอของการเร่งเวลาแบบเดินไปด้วยได้ กันสั่นก็นิ่ง แถมได้มิติกับมุมมองที่สวยมากขึ้นด้วย

Creative Shooting Modes มาแบบครบครัน ทั้ง Timelapse, Panorama, Slow Motion

การประสานงานตัวกล้อง ไม้กันสั่น และแอพ ช่วยให้การถ่ายวิดีโออย่าง Panorama, Timelapse หรือการถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion สามารถทำได้ทันที ทำให้ Gimbal ตัวนี้ตอบสนองมือใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ถ่ายได้ทุกโหมดเหมือนกล้อง Mirrorless และ Action Camera กันเลยจ้า

ถ่ายวิดีโอแนวตั้งหรือแนวนอน สลับได้รวดเร็ว

ปกติมือถือเวลาจะถ่ายแนวตั้งหรือแนวนอนด้วยการใช้ไม้กันสั่นจะต้องเสียเวลาปรับมุมมองพอสมควร กว่าจะหมุน กว่าจะถ่ายได้ แต่ DJI Osmo Mobile 3 ออกแบบให้สลับได้อย่างรวดเร็วไม่เสียเวลา เป็นความสะดวกสำหรับสายคอนเทนต์ที่ถ่ายวิดีโอด้วยมือถือครับ

Sport Mode ให้มอเตอร์ตอบสนองการทำงานอย่างรวดเร็วแบบ 100%!!

สำหรับคนที่ต้องการความเป็น Gimbal ที่มากกว่า Gimbal มือถือ ตัว DJI Osmo Mobile 3 นั้นมีการเพิ่มความสามารถที่จะทำให้อุปกรณ์ตัวนี้สามารถถ่ายวิดีโอในโหมด Sport ได้ ตัวกันสั่นจะตอบสนองแบบรวดเร็วเต็มกำลัง ให้คนที่ถ่ายวิดีโอแนวกีฬาได้สะใจกับการถ่าย Video ที่มี Movement แบบรวดเร็วนั่นเอง

สำหรับคนที่จะสั่งซื้อ DJI Osmo Mobile 3 ประกันศูนย์ ราคา 3,490 บาท ที่ lnwgadget ครับ