รีวิว Rode Wireless Go ไมโครโฟนไร้สายที่เล็กสุด แต่ประสิทธิภาพแน่นสุด ๆ

June 17, 2019
Reviews

รีวิว Rode Wireless Go ไมโครโฟนไร้สายที่เล็กสุด แต่ประสิทธิภาพแน่นสุด ๆ อย่างที่เรารู้กันดีว่าผู้ผลิต Microphone อย่าง Rode มีไมโครโฟนในระดับมืออาชีพ คุณภาพสูง และราคาจะมีรุ่นระดับคุ้มค่า สำหรับคนเริ่มต้น ที่ให้คุณภาพดีและต้นทุนไม่แรง กับรุ่นเกรดโปรไปเลย ก็จะราคาในกลุ่ม Production

แต่ว่าล่าสุด Rode ได้จำหน่าย Rode Wireless Go ซึ่งประสิทธิภาพนี่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับกลุ่มที่ใช้งานมืออาชีพ เสียงดี ย่านต่ำ มิติมาดีมาก แต่ราคาไม่แรง (เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและขนาด) ทำให้ตัวนี้แทบขาดตลาดกันเลย เดี๋ยวไปดูกันว่า Rode Wireless Go รุ่นนี้ทำไมให้ประสิทธิภาพที่ดีขนาดนี้กันล่ะเนี่ย

รีวิว Rode Wireless Go ไมโครโฟนไร้สายที่เล็กสุด แต่ประสิทธิภาพแน่นสุด ๆ

Rode Wireless Go มีจุดเด่นในเรื่องอะไรบ้าง

คุณภาพเสียงดี ใช้งานในระดับมืออาชีพได้
การส่งสัญญาณ 2.4GHz มีเทคโนโลยี Mic แบบใหม่ ให้ความมั่นใจเรื่องคุณภาพเสียง และความเสถียรของการส่งสัญญาณ
น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ประหยัดพื้นที่ในกระเป๋า
ไม่เสียเวลาในการติดตั้ง Connect กันได้ง่ายและรวดเร็วมาก
การออกแบบใช้งานง่าย มือใหม่แบบเริ่มต้นก็ใช้เป็น มือโปรก็ใช้ได้ดีมาก เป็นสิ่งที่ทำได้ยากแต่ Rode ทำออกมาได้แล้ว
แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 7 ชั่วโมง เพียงพอต่อการถ่ายคลิปเต็มวัน
ระดับการรับเสียงปรับได้ 3 ระดับ 0dB, -6dB, -12dB
ต่อสายไมค์แยกเพิ่มได้ในกรณีที่อยากจะเพิ่มคุณภาพเสียง (แต่เสียงเดิมก็ดีมากแล้ว เผื่อว่างาน Production ต้องการรายละเอียดเสียงของไมโครโฟนเฉพาะบางอย่างก็ต่อได้เลย)
ใส่เข้ากับหัวกล้องได้พอดี บาลานซ์ดี

คุณภาพเสียงดี ใช้งานในระดับมืออาชีพได้

จุดนี้คือสิ่งท่ี Rode ทำมาได้ดีอย่างต่อเนื่อง และดีมาตลอดก็คือเรื่องคุณภาพเสียง เพราะว่าในรุ่นนี้สามารถที่จะทำไมโครโฟนที่มีน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก แต่เก็บมิติเสียงทั้งในย่านที่ต่ำ มิติของเสียง น้ำหนักของเนื้อเสียง ทำได้ดี ทำให้ไมโครโฟนตัวนี้สามารถที่จะใช้งานในระดับอาชีพได้เลย

การส่งสัญญาณ 2.4GHz ด้วยเทคโนโลยีไมโครโฟนแบบใหม่ทำให้การส่งสัญญาณมีความเสถียรมาก มั่นใจในเรื่องคุณภาพเสียงได้

หลายคนยังไม่รู้ ไมโครโฟนในยุคที่ผ่าน ๆ มานั้นการส่งสัญญาณมักจะเจอปัญหาเรื่องของคลื่นต่าง ๆ ที่เข้ามารบกวน ยิ่งในอาคารหรือการถ่ายวีดีโอในห้างสรรพสินค้าที่มีสัญญาณต่าง ๆ อยู่เยอะไปหมด ทำให้การส่งสัญญาณของไมโครโฟนแบบไร้สายถูกรบกวนบ่อยได้ เสียงแทรก เสียงขาดเป็นระยะก็มี

แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถส่งสัญญาณเสียงแบบ 2.4GHz ทำให้การส่งสัญญาณชัดเจน เสถียร และไว้ใจได้ แม้ว่าจะเจอพื้นที่ ที่อาจจะมีคลื่นรบกวนเยอะก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ครับ

ขนาดเล็ก ประหยัดพื้นที่ในกระเป๋า

สิ่งสำคัญของพื้นที่ในกระเป๋ามันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ? สำคัญมาก ๆ ครับ เพราะว่าพื้นที่กระเป๋าของเรามีจำกัด และการพกพาทั้งไมโครโฟน ทั้งกล้อง นอกจากน้ำหนักจะเยอะ ยังทำให้กระเป๋าใหญ่ดูเทอะทะ บางงานต้องการความเนี๊ยบ การที่กระเป๋าเราแน่นด้วยอุปกรณ์คงไม่ใช่เรื่องดีแน่

Rode Wireless Go ก็เลยได้ออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก เราใช้พื้นที่กระเป๋านิดเดียวก็สามารถที่จะใส่เข้าไปได้แล้ว และพร้อมใช้งานอยู่ตลอด เพราะอุปกรณ์มีแค่ 2 ชิ้นเล็ก ๆ แค่นั้นเอง

ติดตั้งง่าย ไม่เสียเวลา3 วินาทีก็เชื่อมต่อกันได้แล้ว

โดยปกติแล้วการ Setup เสียงกินเวลามากนะ ทั้งตัวรับตัวส่ง Channel สัญญาณวุ่นวายไปหมด ต้องทำให้เราเผื่อเวลาเยอะ และไม่พร้อมสำหรับการถ่ายวีดีโอในช่วงเวลาจำกัด

แต่ด้วย Rode Wireless Go ไม่กี่วินาทีก็สามารถที่จะ Connect กันได้แล้ว และพร้อมที่จะให้เราสามารถถ่ายวีดีโอ บันทึกเสียงดี ๆ ได้เลย

ไม่ทำลายบรรยากาศในพื้นที่โดยรอบ

ไมโครโฟนปกติถ้าติดแล้วมีขนาดใหญ่เทอะทะ ดูจริงจังมาก ๆ ถ้าจะเอาไปถ่ายใน Studio ก็โอเคครับ แต่ถ้าไปที่สาธารณะ ไมโครโฟนใหญ่ ๆ จะเป็นอุปสรรคได้ เพราะคนรอบข้างอาจจะรู้สึกไม่เป็นมิตร ยิ่งเป็นการ Vlog ที่เป็นสถานที่สาธารณะ หรือพื้นที่ ที่คนเข้าไม่คุ้นว่าเรากำลังถ่ายอะไร หรือถ่ายไปทำอะไร การที่มีไมโครโฟนใหญ่ดูจริงจังจะเป็นปัญหาได้

ไมโครโฟน Rode Wireless Go ตัวนี้ก็จะให้เรื่องของความง่าย ดูไม่สะดุดตา เข้ามาช่วยในการทำให้บรรยากาศสถานที่นั้น ๆ ยังคงเดิมครับ

เหมาะสำหรับคนที่ทำ Vlog และ Video Review มากที่สุด

ที่ต้องบอกว่ามากที่สุดเพราะว่าเวลาทำคอนเทนต์นอกจากเราจะแข่งเรื่องของตัวคอนเทนต์แล้ว คุณภาพของภาพและเสียงก็เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้คนหยุดยอมเสียเวลาเพื่อดูคอนเทนต์ของเรา ถ้าหากคุณภาพเสียงไม่ดีพอ สื่อสารได้ไม่ชัดเจน ก็อาจจะทำให้คนดูเสียสมาธิและปฏิเสธที่จะดูคอนเทนต์เราต่อได้ ดังนั้นคนที่ทำคอนเทนต์กลุ่มนี้ควรเลือกใช้ไมค์ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดี และติดตั้งใช้งานได้ง่ายครับ

สำหรับคนที่อยากจะเป็นเจ้าของ Rode Wireless Go ราคา 7,900 เท่านั้นที่ร้าน lnwgadget ครับที่ร้านมีบริการให้ทั้งก่อนและหลังการขายเลย สินค้าประกันศูนย์ด้วย สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้จ้า